px

เรื่อง : เกมสังหารวันอวสานโลก 末世虐杀游戏最新章节
ตอนที่ 30 คุณคิดว่าคุณเป็นใคร


ตอนที่ 30 คุณคิดว่าคุณเป็นใคร


“ นายสงสัยฉันเหรอ ? ”
เฟิงหย่งขมวดคิ้ว ในแววตานำมาซึ่งความโกรธ “ ตัวนายเองไม่กลัวตายก็แล้วไป แต่เธอคนนี้ยังเด็ก ”
เขาชี้ไปที่หวังซินเหยาที่สวมชุดนักเรียนนั้น : “ นายอยากให้เธอไปเสี่ยงอันตรายด้วยกันกับนายหรือไง ? ”
“ ต้องขอโทษด้วย ฉันไม่สามารถรับความหวังดีจากคนแปลกหน้าได้จริงๆ ”
หลี่ต้าส่ายหัว เขาหันตัวกลับไปและตั้งใจที่จะขึ้นรถเพื่อจากไป
การเป็นผู้เชี่ยวชาญการรบพิเศษระยะยาว ทำให้เขามีนิสัยขี้ระแวงสงสัย การเชื่อคนแปลกคนหนึ่งอย่างง่ายดายมักจะทำให้ตัวเองถึงแก่ชีวิตหรือตกอยู่ในอันตรายได้
“ ฉันเป็นตำรวจคนหนึ่ง ” เฟิงหย่งพูดเบาๆด้านหลังหลี่ต้า “ อีกอย่างหนึ่ง ฉันก็ยังเป็นทหารคนหนึ่งอีกด้วย ”
เขาชี้ปลอกแขนที่ติดเข็มของตัวเอง สีหน้าที่มั่นใจ
หลี่ต้าตัวสั่นไปทั้งตัว เท้าที่ก้าวก็หยุดลง
“ ทหาร ” เป็นเวลานานมากแล้วแต่หลี่ต้าก็ยังภูมิใจที่เขาเป็นทหาร
ที่คอยช่วยบรรเทาทุกข์เหตุแผ่นดินไหวและการอพยพย้ายถิ่นฐาน....เมื่อพวกเขาเห็นแค่เงาของพวกหลี่ต้า ผู้คนต่างก็ส่งเสียงเชียร์และขอบคุณพวกเขา ท่าทางเต็มไปด้วยความตื่นเต้นอย่างนั้น ไม่มีสักคนที่ไม่ทำให้เขารู้สึกภูมิใจในการเป็นทหาร หลังจากนั้นหลายปี พวกเขาก็ยังคงมีความภูมิใจในทหารเพราะว่านี่คือความภูมิใจในชีวิตของพวกเขา
คำว่า “ ทหาร ” สองพยางค์นี้เป็นคำศักดิ์สิทธิ์ แต่ปลอกแขนที่ติดเข็มยศนั้นยิ่งกว่าจิตวิญญาณของทหาร !
เขาหันกลับมามองเฟิงหย่งอย่างเต็มตา 1 นาทีเต็มๆ เขายิ้มแฉ่ง
“ โอเค ฉันเชื่อใจนาย ”
เพราะว่าสายตาของเฟิงหย่งในสายตาเขา ซึ่งมองดูแล้วให้ความรู้สึกอารมณ์เดียวกันกับเขาเลย
“ หายนะอยู่ตรงหน้าแล้วเกิดในชาติเดียวกันก็ต้องสามัคคีกันและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ”
เฟิงหย่งพูด  :  “ นายก็เข้ามาด้วยกันเถอะ จะได้ให้หมอหวงอธิบายตำแหน่งของคลังยาอย่างละเอียดสักหน่อยและการแบ่งตัวยาด้วย ”
“ โอเค ! อย่างนั้นต้องรบกวนนายแล้ว ”
กระบวนการทั้งหมดก็ราบรื่นดีแต่ทันใดนั้นเสียงที่ไม่คาดฝันเสียงหนึ่งดังขึ้นมา
“ เดี๋ยวก่อน ! นายคนนี้ไม่สามารถเข้าไปได้ ”
หลี่ต้าขมวดคิ้ว เขาหันหลังกลับมา พบว่าเป็นคนที่ใส่เสื้อกั๊กคนหนึ่งยืนอยู่ด้านหน้า รอยบนบ่าของชายร่างกำยำที่มีรอยสักมังกรอยู่ตัวหนึ่ง  
“ ทำไม ? พี่ชายมีปัญหาอะไร ? ” หลี่ต้าถามอย่างสงสัย ในน้ำเสียงมีความเย็นชาอยู่ในนั้น
“ แน่นอนว่ามีเพราะนายติดเชื้อแล้ว พวกเราที่นี่ไม่ต้อนรับผู้ติดเชื้อ ”
ชายคนนี้คือเหอจุน เขาเห็นกระบวนการที่หลี่ต้าดึงความสนใจของพวกซอมบี้ด้วยตาตัวเองที่ด้านหน้าของหน้าต่างจนจรดพื้น “ ก่อนหน้านี้นายดึงความสนใจของพวกซอมบี้ฉันเห็นทั้งหมด นายถูกซอมบี้ข่วนเป็นแผลไปทั้งตัว ”
เขาชะงัก พูดด้วยน้ำเสียงธรรมดา
“ อีกทั้งพวกนั้นเป็นซอมบี้กลายพันธุ์ด้วย ”
“ ฉันติดเชื้อเหรอ ? ตลกน่า ! ”
หลี่ต้ายิ้มเยือกเย็น เขาชี้ไปบนเสื้อผ้าของตัวเองปรากฏให้เห็นว่าแขนเนียนเลี่ยมกริ๊บไม่มีบาดแผลใดๆ
“ นายลองว่ามาซิ แผลฉันมีตรงไหน ”
ตอนที่กลับจากโรงพยาบาล หลี่ต้าได้กลืนกินซอมบี้หลายตัวทำให้เขากลับมามีพลังชีวิตเต็มเปี่ยมแล้ว แม้แต่ถูกเสื้อผ้าที่ฉีกขาดก็ถูกเปลี่ยนออก ทั้งร่างกายของเขาในตอนนี้เรียบเนียนปกติดีอย่าว่าแต่บาดแผลเลยแม้แต่รอยแผลเป็นก็หาไม่เจอ
“ นี่มันเป็นไปไม่ได้  ! ”
เหอจุนตกตะลึงตอนที่เขามองแขนที่เรียบเนียนโดยไม่มีแผลอะไรเลย ของหลี่ต้า
ก่อนหน้านี้เห็นแขนของหลี่ต้าโดนหมาซอมบี้ตัวหนึ่งกัดจนได้รับบาดเจ็บชัดๆ เดิมทีบาดแผลที่น่าเกลียดนั้นหายไปอย่างน่าแปลกใจ

“ บนร่างกายของนายต้องมีบาดแผลแน่นอน ” เหอจุนพูดอย่างฉุนเฉียวพลางมองไปทางเฟิงหย่งไปด้วย “ หัวหน้าเฟิง แม้ว่านายจะเป็นหัวหน้าแต่นายต้องรับผิดชอบ ฉันไม่สามารถจะให้คนที่ติดเชื้ออย่างนี้เข้าตึกได้ ”
“ ถูกกัดจนได้รับบาดเจ็บไม่ได้แปลว่าจะติดเชื้อเสมอไปเพราะนายไม่เคยเห็นตัวอย่าง ”

 เฟิงหย่งสีหน้านิ่งสงบ เมื่อเห็นเหอจุนกระทืบเท้าอยู่อย่างนั้น “ นายคิดว่ายังไง ? ”
หลี่ต้านั้นแม้ว่าช่วงเวลาสร้างสัมพันธ์จะไม่นาน แต่เขาแค่มองสบตากันก็เข้าใจ บางทีนี่ก็เป็นความสัมพันธ์แบบทหารกับพวกเขาทั้งหมดเพราะพวกเขาเป็นคนประเภทเดียวกัน
แต่เหอจุนในสายตาเขา ก็เป็นคนเลวคนหนึ่งไร้ค่าเหมือนขี้หมาก้อนหนึ่ง
ในจิตใต้สำนึกเขาก็ลำเอียงไปทางหลี่ต้าซะมากกว่า
“ ให้เขาถอดเสื้อผ้าออกเพื่อทำการตรวจสอบร่างกายของเขา ! ” เหอจุนชี้ไปทางหลี่ต้าแล้วพูดอย่างเสียงดัง
“ นายคิดว่านายเป็นใคร ? ”
หลี่ต้ายิ้มอย่างเยือกเย็น ในสายตาของเขาไอ้หนุ่มนี่เรียกว่า “ ทำงานเพื่อประโยชน์ของทุกคน ” เป็นคนประเภทเดียวกันกับฟ่านจินเป่าเหมือนว่าเป็นลิงตัวหนึ่งที่กระโดดย่ำเท้าอยู่
“ อะไรนะ! ” ได้ยินคำพูดนี้ของหลี่ต้า เหอจุนก็มึนงง หลังจากนั้นก็โกรธจนควันออกหู “ ในเขตเหวินซาน นายกล้าพูดกับฉันอย่างนี้เหรอ
! นายเป็นคนแรกที่พูดกับฉันแบบนี้ ! ”
เขาโบกมือทำให้คนหลายคนที่อยู่ด้านหลังล้อมรอบเข้ามา คนกลุ่มนี้ขยิบตาทีละคนและด้วยร่างกายแข็งแรงที่ดูเหมือนนักเลง ชัดเจนเลยว่าคนเหล่านี้ล้วนเป็นลูกน้องของเหอจุน”
“ เหอจุน พวกนายจะทำอะไร ! ถอยไป ! ”
ใบหน้าของเฟิงหย่งเต็มไปด้วยความโมโหโทโส มือของเขาเอื้อมลงไปจะจับปืนที่เอว แต่อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นเขาก็ตะลึงกับสิ่งที่เห็น มือของเขาจับที่ปืนแล้วก็ค่อยๆวางลง
เดิมทีคิดว่าหลี่ต้าอาจจะโชคดี แต่คิดไม่ถึงว่าจินตภาพของเขาจะลบล้างความเป็นจริงไป
หลี่ต้าจับคอของเหอจุนด้วยมือเดียวและยกเขาขึ้นทั้งตัว
“ ฉันจะบอกนายให้นะ ตอนนี้ฉันอารมณ์ไม่ดี ”
มือซ้ายหลี่ต้าหยิบท่อเหล็กที่ตัดโค้งเป็นสองท่อนขว้างลงพื้น ค่อยๆพูดทีละคำทีละประโยค “ ตอนนี้นาย ยังจะให้ฉันถอดเสื้อผ้าออกให้หมดเพื่อดูร่างแห้งๆชองฉันไหม ? ”
“ พะพี่ พี่ชาย ฉันผิดไปแล้ว ฉะฉัน ฉันไม่กล้าทำอีกแล้ว...... ”
สีหน้าของเหอจุนเปลี่ยนสีเป็นสีของตับหมูซึ่งดูไม่ได้เลย นี่เป็นเพราะเขาขาดออกซิเจน สองมือของเขาข่วนบนคอของเขาเองอย่างสะเปะสะปะ พยายามแกะมือของหลี่ต้าที่บีบคอออก แต่กลับรู้สึกว่ามือที่ผอมกะหร่องของหลี่ต้าเหมือนกับคีมโลหะอย่างนั้นแหละ เขาไม่สามารถขยับได้แม้แต่นิดเดียว   
ภายใต้มือของเหอจุนแสดงความตื่นกลัวค่อยๆถอยกลับไป พวกเขาต่างเป็นคนที่ป่าเถื่อนและโหดร้ายโดยตลอดที่ผ่านมา ไม่เคยกลัวฟ้ากลัวดินแต่นี่เป็นครั้งแรกสำหรับความรู้สึกตื่นกลัวอย่างนี้
พวกเขาเห็นอะไร !ในสายตาตรงหน้าเขามองดูเป็นวัยรุ่นที่ผอมกะหร่อง ไม่นึกเลยว่าจะสามารถงอท่อเหล็กด้วยมือเปล่าได้ !
แต่นี่เป็นท่อเหล็ก ! วัสดุโลหะคือเหล็กนะ ไม่ใช่เศษไม้เน่าผุพัง สามารถงอท่อเหล็กและหักคอบางๆอย่างนั้นของพวกเขาเหมือนกับเล่นของเล่นยังไงอย่างนั้น
“ แค่กแค่ก..... ”
หลี่ต้าสะบัดมือ เหอจุนก็ไอออกมาชุดใหญ่ กุมคอนั่งคุกเข่าลงไปบนพื้น
“ กลับกันเถอะ ”
เฟิงหย่งมองเหอจุนแวบเดียวแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เขาสั่งชายเหล่านั้นเก็บของที่ขโมยมาใส่กระเป๋ากลับอาคารผู้ป่วย หลี่ต้าขึ้นรถขนเงินตามเฟิงหย่งไปด้านหลัง แต่ไม่ได้ขยับไปไหนเลย พวกเหอจุนที่สีหน้าดุร้ายก็พูดกันออกมา
“ น้ำเสียงนี้ ฉันกลืนไม่ลง ! ”
เหอจุนกัดฟันกรอดๆ มองไปทางที่รถขนเงินจากไป
“ พละกำลังของเขามากเกินไป พวกเราไม่ใช่คู่ต่อสู้แน่ๆ ” คิดถึงฉากที่หลี่ต้างอท่อเหล็กนั่น ชายร่างกำยำก็กลัวจนตัวสั่นเงอะงะอยู่ “ กำลังมากจะมีประโยชน์อะไร ! ” ชายหัวโล้นท่าทางดุร้ายหัวเราะพร้อมพูดออกมา “ ฉันก็ไม่เชื่อ เขาจะไม่กลัวปืนได้เหรอ ”
“ แต่พวกเรามีปืนที่ไหนล่ะ ! ” เหอจุนสบถ “ ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก ! ”
“ ฉันมีวิธี ” ชายหัวโล้นยิ้มเยือกเย็นกระซิบข้างหูแล้วพูดออกมาประโยคหนึ่ง
——————
“ สวัสดี ฉันชื่อเฟิงหย่ง เป็นหัวหน้ากองกำลังตำรวจเขตเหวินซาน ” เฟิงหย่งตามมาข้างๆรถ

หลี่ต้า ฉันขอแนะนำตัวเองหน่อยนะ เขาถามกลับทันที “ นายล่ะ ? ”
“ ฉันหลี่ต้าเป็นคนเร่ร่อนจรจัดคนหนึ่ง ”
หลี่ต้าจุดบุหรี่กลิ่นหอมมวนหนึ่งแล้วยื่นให้เฟิงหย่งอีกมวนหนึ่ง
เฟิงหย่งรับบุหรี่และสูบมันเข้าไป
“ กลัวว่าจะไม่ง่ายอย่างนั้นน่ะสิ ? ฉันเหมือนอยู่บนตัวนายฉันรู้สึกได้ว่าเป็นอารมณ์ของทหาร ”
“ ก่อนหน้านี้ฉันเคยอยู่กองกำลังรบพิเศษ ” หลี่ต้ายิ้ม
“ นายเป็นทหารพิเศษ ? ”
เฟิงหย่งมองสองมือของหลี่ต้าแล้วมองใบหน้าขาวใสของเขา “ ไม่เหมือนเลย ก่อนหน้าของวันนี้นายต้องไม่เคยจับปืนจริงๆแน่เลย ”
หลี่ต้าไม่ได้โต้ตอบอะไร จริงสิ หลังจากที่เขาข้ามเวลามายังไม่เคยจับปืนเลยจริงๆด้วย
“ หัวหน้าเฟิงกลับมาแล้ว ! ”
เห็นพี่เฟิงหย่งและกลุ่มของพวกเขานำสิ่งของขนใส่กระเป๋าใหญ่กลับมา ผู้คนในอาคารผู้ป่วยนอกมองด้วยความตื่นเต้น
ประตูหลักของอาคารผู้ป่วยนอกถูกคนจากด้านในเปิดออกมา พวกเฟิงหย่งเดินเข้าไป หลี่ต้าแบกปืนไว้บนบ่าแล้วอุ้มหวังหยวนอู่จากบนรถลงมาหลังจากนั้นหวังซินเหยาก็เดินเข้ามา
ในทุกห้องผู้ป่วยของตึกแต่ละคนที่เดินออกมามีใบหน้าหน้าซีดเซียว คนเหล่านี้บนตัวยังใส่ชุดผู้ป่วยอยู่เลย ยังมีคนแก่และเด็กมากมายที่หลังจากพวกเขาได้รับการแพร่ของเชื้อไวรัสก็ติดอยู่ในอาคารผู้ป่วยนอก
“ ซอมบี้พวกนั้นพวกเราจัดการหมดแล้ว ” เฟิงหย่งอธิบาย “ ในชั้นสามของด้านล่างพวกนายจะปลอดภัย

อย่างไรก็ตามเพื่อป้องกันไม่ให้ซอมบี้ที่ปีนขึ้นไปจากหน้าต่างชั้นบน บันไดชั้นสี่ก็ถูกปิดไปตายหมดแล้ว ”
“ คู่ควรจะเรียกว่าเป็นหัวหน้าทีมกองกำลังตำรวจ มีการบริหารจัดการได้ดีจริงๆ ”
คำชมของหลี่ต้าที่ส่งออกมาจากใจจริง จากในสายตาของคนแก่อ่อนแอรอบๆเหล่านั้นสามารถมองออกได้เลย เฟิงหย่งอยู่ที่นี้เขามีชื่อเสียงมากแต่ในที่นี้ยังรวมทั้งเหอจุนพวกเขาแก๊งค์ของเขาด้วย นี่เป็นสิ่งที่น่ายกย่องยิ่งกว่า
คนแก่ที่อ่อนแอพวกนี้แม้ว่าจะดูหิวโหยแต่ไม่ได้รับความทารุณทรมานเลย รวมทั้งผู้หญิงที่ใบหน้าดูยิ้มแย้มพวกนี้ ชุดที่ใส่ก็ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย ซึ่งแสดงว่าพวกเขาไม่ได้รัการข่มแหงรังแกแม้แต่นิดเดียว
ในใจหลี่ต้าแอบคิด ถ้าไม่มีเฟิงหย่งความคุมที่นี่อยู่ก็คงต้องพึ่งกลุ่มคนของเหอจุนนี้แหละ แต่เกรงว่าพวกเหอจุนจะทำตัวเป็นการปกครองที่เผด็จการ
“ นี่คือใคร ? เขา เขาเป็นอะไรไป ! ”
เห็นหวังหยวนอู่ที่ถุงก้อนเนื้อสีเขียวทั้งตัวในอ้อมกอดของหลี่ต้า สีหน้าของผู้คนด้านในแสดงท่าทีกลัวออกมาโดยเฉพาะกลิ่นเหม็นที่โชยออกมามากเป็นพิเศษยิ่งทำให้ผู้คนปิดจมูกไว้

“ นี่เป็นเพื่อนของฉัน เขาเป็นก้อนเนื้อติดเชื้อ ไม่ใช่ถูกซอมบี้กัดได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ” หลี่ต้ารีบอธิบายเมื่อเห็นปฏิกิริยาของคนรอบๆ
“ ไม่ได้ ถึงแม้เขาจะไม่ได้โดนซอมบี้กัดได้รับบาดเจ็บ อย่างนั้นใครจะรับประกันว่าเขาไม่ได้พาเชื้อมาสู่พวกเราล่ะ ! ”
มีคนยืนคัดค้านออกมาทันที
“ ฉันอยู่ใกล้กับพวกเขามานานแล้วแต่ไม่โดนเชื้อเลย นี่น่าจะเป็นการรับประกันที่ดีที่สุดนะ ” หลี่ต้าแสดงแขนของตัวเองและให้พวกเขาตรวจดู  
เมื่อเห็นแขนเนียนสะอาดของหลี่ต้านั้นเสียงของทุกคนที่ถกเถียงกันก็ค่อยๆลดลงไป
“ เอาล่ะ พาเขาไปที่ชั้นสาม และทุกคนรอบๆออกไป ”
เหอจุนพูด หลังจากนั้นเขามองตำรวจสองนายที่ด้านหลังแวบหนึ่ง “ เสี่ยวเฉิน เสี่ยวโจว พวกนายสองคนคุ้มกันอยู่นอกห้อง ถ้าไม่ใช่คำสั่งของฉันใครก็ตามไม่สามารถติดต่อพูดคุยกับพวกเขาได้ ”
“ รับทราบ ! ”
สีหน้าของตำรวจสองนายแม้ว่าจะรังเกียจมากๆ แต่ยังจำเป็นต้องปฏิบัติตามคำสั่งของหัวหน้า รับหวังหยวนอู่ที่ห่อผ้าคลุมเตียงจากในมือของหลี่ต้าเดินขึ้นไปบนตึก
“ นายก็ตามมาด้วยกันเถอะ รอฉันกลับมาด้วย ”
หลี่ต้าตบไหล่ของหวังซินเหยา สาวน้อยตอบด้วยเสียงที่แผ่วเบา หลี่ต้าตามตำรวจสองนายขึ้นไปบนตึก
“ หมอหวง คุณอธิบายตำแหน่งของเซรุ่มกับเจ้าหนุ่มคนนี้อย่างละเอียดแล้วนะ ”
หมอหวงคนนั้นพยักหน้า พูดกับหลี่ต้า :  “ คุณตามผมมา ”
หลี่ต้าเดิมตามเขาไป ที่หน้าเคาน์เตอร์
“ คลังยาอยู่มุมทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของโรงพยาบาล แบ่งบนล่างสามชั้น ”
หมอหวงชี้ไปที่รูปแผนกต่างๆนั้นบนกำแพงหลังเคาน์เตอร์ อธิบาย “ ชั้นหนึ่งบนพื้นเป็นยาธรรมดาและอุปกรณ์การรักษา ชั้นที่สองเป็นอุปกรณ์ราคาแพงที่ยังไม่ได้นำมาใช้งาน และยาที่มีผลพิเศษต่างๆ แต่คุณอยากหาเซรั่ม BTC ต้องไปที่ห้องทดลองไวรัสที่ชั้นสาม ”
“ ห้องทดลองไวรัส ? ”
หลี่ต้าขมวดคิ้ว “ พวกคุณที่นี่เป็นแค่โรงพยาบาลนี่ ทำไมถึงมีห้องทดลองไวรัสอย่างนี้ด้วยล่ะ ? ”
“ นี่เป็นห้องทดลองของรัฐบาลที่สร้าง ” หมอหวงผายมือ “ ฉันเป็นแค่บทบาทเล็กๆมีสิทธิ์น้อยนิดคนหนึ่ง สำหรับสถานการณ์ด้านในฉันก็ไม่ค่อยเข้าใจหรอก โดยปกติจะรับผิดชอบเพียงแค่ขนส่งวัสดุทดลองเท่านั้นเอง ”
“ ฉันรู้แค่พนักงานด้านในเป็นนักวิทยาศาสตร์มาจากหลากหลายที่ ยังมีอีกแผนกหนึ่งเป็นปัจจัยของโรงพยาบาลพวกเรา พวกเขาเป็นพนักงานแผนกเก็บความลับต่างๆ ”
“ เอาล่ะ อย่างนั้นนายบอกฉันหน่อยว่าทำยังไงจะไปเอาเซรุ่มได้ ” หลี่ต้าพยักหน้า
“ ห้องทดลองไวรัสนี่เป็นความลับ เฉพาะผู้ที่ผ่านการคัดเลือกเท่านั้นถึงจะมีสิทธิ์เข้าร่วม ก็จะเป็นผอ. ไม่ก็ไม่มีใครมีสิทธิ์แล้ว ”
หมอหวงพูดต่อไปอีก
“ แต่ฉันมีบัตรแสดงตัวที่นี่หนึ่งใบ นั่นเป็นของหลิวหมิงเจ๋อเพื่อนร่วมงานของฉัน ถ้าได้บัตรแสดงตัวใบนี้บางทีมันอาจจะช่วยคุณได้ดีทีเดียว ”
หมอหวงหยิบบัตรแสดงตัวใบหนึ่งออกมาสะบัด จากนั้นก็เก็บเข้าไว้ในกระเป๋า

“ แต่ถ้าฉันช่วยนายแล้วจะได้ประโยชน์อะไร ”

รีวิวผู้อ่าน