ตอนที่ 33 ผู้กุมอำนาจโลกใต้ดิน
ก่อนหน้านี้ฉินห้าวตงเป็นแค่นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมดาคนหนึ่ง จึงเป็นธรรมชาติที่เขาจะไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ ต่อหลงไห่เซิง และไม่เคยได้ยินแม้กระทั่งชื่อเสียงเรียงนามของเขามาก่อน
เขาหัวเราะแล้วพูดขึ้น “ผู้กุมอำนาจโลกใต้ดิน พูดให้ชัดเจนก็คือแค่นักเลงหัวไม้คนหนึ่งเท่านั้น ยิ่งใหญ่ตรงไหน?”
หลินโม่โม่พูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง “คุณอย่าดูถูกหลงไห่เซิงเด็ดขาด เขาคนนี้ไม่ใช่คนที่คุณจะมายั่วยุได้ ขนาดหลินชื่อกรุ๊ปอย่างพวกเรายังไม่สามารถยั่วยุเขาได้ ถ้าในอนาคตเจอเขาเข้า คุณควรอยู่ให้ไกลเขาที่สุด”
ฉินห้าวตงหัวเราะอย่างไม่ใส่ใจ ไม่ว่าจะเป็นพี่หลงอะไรนั่นหรือผู้กุมอำนาจโลกใต้ดินอะไรนั่น ต่างก็ไม่ได่อยู่ในสายตาของเขาเลย
เมื่อหลินโม่โม่เห็นว่าเขาไม่สนใจคำพูดของเธอ จึงพูดขึ้นอีกว่า “อำนาจของหลงไห่เซิงมีมากกว่าที่คุณคิด เมื่อปีที่แล้วผู้อำนวยการสำนักอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ขัดแย้งกับเขา แถมยังบอกว่าจะตรวจสอบข้อมูลของเขาอีก สุดท้ายไม่กี่วันต่อมาเขาถูกพาตัวไปโดยคนจากในมณฑลและไม่เคยได้ข่าวคราวของเขาอีกเลย”
“ยิ่งไปกว่านั้นก่อนหน้านี้มีบริษัทขนาดใหญ่แห่งหนึ่งพยายามที่จะแข่งขันทางธุรกิจของหลงไห่เซิงมา ไม่เพียงแต่เอาชนะไม่ได้ แต่ยังไปทำให้หลงไห่เซิงขุ่นเคืองอีกด้วย"
“แค่คำพูดเดียวของหลงไห่เซิง ทำให้เกิดการตรวจสอบแผนกอุตสาหกรรม การค้าและภาษีของบริษัทนี้ หลังจากนั้นธนาคารรายใหญ่ทุกแห่งหยุดให้สินเชื่อแก่บริษัท จนไม่มีใครกล้าทำธุรกิจกับบริษัทนี้อีกเลย”
“ในไม่ช้าบริษัทขนาดใหญ่ที่อ่อนแอกว่าหลินชื่อกรุ๊ปไม่เท่าไรก็ล้มละลายลง”
ฉินห้าวตงพยักหน้าเล็กน้อย ดูแล้วพี่หลงคนนี้น่าจะมีฝีมืออยู่พอควร
หลังจากจังหวะการพูดคุยนี้ผ่านไป ในไม่ช้าพวกเขาก็มาถึงสวนสนุกมิกกี้เม้าส์
เนื่องจากแม่หนูน้อยยังเด็กเกิน ฉินห้าวตงและหลินโม่โม่จึงไม่ให้เธอเล่นเครื่องเล่นที่น่าหวาดเสียวเกินไป พวกเขาให้เธอเล่นเครื่องเล่นสำหรับเด็กเช่น Pooh, Sweet Pot และ Peter Pan
แม่หนูน้อยเล่นอย่างสนุกสนาน เธอหัวเราะคิกคักไม่หยุด การที่เธอได้ออกมาเที่ยวกับพ่อแม่เป็นอะไรที่ทำให้เธอมีความสุขมาก
“ป่าป๊า หนูอยากเล่นอันนั้น!”
แม่หนูน้อยชี้ไปยังม้าหมุนที่อยู่ไม่ไกล
“ได้สิ พ่อจะพาหนูไปนั่ง”
ม้าหมุนเป็นที่ชื่นชอบของเด็ก ๆ หลายคน หลังจากต่อแถวประมาณ 20 นาที ในที่สุดก็ถึงรอบของพวกเขา
ฉินห้าวตงวางแม่หนูน้อยบนม้าไม้สีแดง เขาและหลินโม่โม่ยืนรออยู่ด้านข้าง ขณะที่พวกเขากำลังรอให้ม้าหมุนเริ่มทำงานนั้น ทันใดนั้นก็มีเสียงคนตะโกนขึ้นว่า “รีบหยุดเดี๋ยวนี้ ออกไปจากที่นี่ให้หมด!”
เขาหันกลับไปมอง เห็นคนกลุ่มหนึ่งยืนอยู่ด้านนอกสวนสนุก คู่รักวัยกลางคนคู่หนึ่งยืนอยู่กับเด็กผู้ชายอายุราวห้าหกขวบ ด้านหลังของพวกเขามีชายชุดดำยืนอยู่ประมาณสามสิบสี่สิบคน
ชายวัยกลางคนสวมชุดสำหรับเดินป่า รูปร่างเขาไม่สูง และก็ไม่ได้ดูแข็งแรงกำยำอะไร แต่ทั่วทั้งร่างกายของเขากลับต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง
หญิงวัยกลางคนที่ยืนอยู่ด้านข้างแต่งตัวหรูหรามาก ในอ้อมแขนของเธอมีเด็กผู้ชายรูปร่างซูบผอม ดูเหมือนขาดพลังและขี้โรค สีหน้าราวกับคนป่วย หัวล้านไม่มีผมขึ้นสักเส้น
ชายคนที่พึ่งตะโกนคือชายหัวโล้นร่างใหญ่ที่มีรอยสักเต็มตัว ใบหน้าอวบอ้วนดูดุร้าย
พอเห็นชายหัวโล้นร่างใหญ่ ผู้คนในสวนสนุกเริ่มทยอยออกไป ดูแล้วคนพวกนี้ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว ไม่อย่างนั้นจะทำให้ทุกคนแยกย้ายกันออกไปได้อย่างไร
พอเห็นว่าคนในสวนสนุกหายไปจนหมด พนักงานของสวนสนุกจึงรีบเดินเข้ามาพูดว่า “คุณครับ มีเรื่องอะไรกันหรือเปล่าครับ?”
“คุณชายน้อยของพวกเราอยากเล่นม้าหมุน พวกเราจองสวนสนุกที่นี่ไว้ทั้งหมดแล้วและเราจะจ่ายในราคาที่เหมาะสมอย่างแน่นอน!”
ชายหัวโล้นร่างใหญ่หยิบธนบัตรออกมาหลายใบ แล้วโยนใส่อ้อมแขนของพนักงาน
“พวกคุณมาวุ่นวายที่นี่เอง ทำไมต้องให้พวกเราออกไปล่ะ?”
ชายวัยกลางคนที่มีรอบสักตะโกนค้านขึ้น เขาพึ่งพูดไปได้ไม่กี่ประโยค ก็ถูกชายหัวโล้นใช้ฝ่ามือใหญ่ตบเข้าไปที่ใบหน้าของเขา “พี่หลงจองสวนสนุกที่นี่ไว้แล้ว แกจะมาพูดมากอีกทำไม?”
“พี่หลง พี่หลงคนไหน?” ชายวัยกลางคนเอามือกุมหน้าแล้วเอ่ยถาม
ชายหัวโล้นตบปากของเขาอีกครั้งแล้วสบถคำด่า “แม่แกสิ แกโง่หรือไงวะ ที่เจียงหนานยังจะมีใครกล้าเรียกตัวเองว่าพี่หลงอีก?”
คราวนี้ชายวัยกลางคนไม่กล้าพูดอะไร เขาดึงเด็กผู้หญิงตัวเล็กแล้วเดินออกไปด้วยท่าทีหวาดกลัว!
ในไม่ช้า คนในสวนสนุกต่างก็พากันออกไปจนหมด ยกเว้นครอบครัวของฉินห้าวตงทั้งสามคน
ในเวลานี้จางเต๋อเซิ่งนำพวกบอดี้การ์ดวิ่งเข้ามาในสนามเด็กเล่นอย่างรวดเร็วแล้วกระซิบว่า “ด้านนอกเป็นคนของหลงไห่เซิง พวกเรารีบออกไปกันเถอะ”
“หลงไห่เซิงเหรอ!” ฉินห้าวตงหัวเราะเบาๆ เมื่อกี้เขาพึ่งจะพูดถึงผู้กุมอำนาจโลกใต้ดินไป คิดไม่ถึงเลยว่าจะได้เจอหน้าเร็วขนาดนี้
“นายกลัวเหรอ? ถ้าหากกลัวก็กลับกันไปก่อน ฉันจะพาถังถังเล่นอยู่ที่นี่”
มองดูท่าทีหวาดกลัวของจางเต๋อเซิ่ง ในใจของฉินห้าวตงรู้สึกเหยียดหยามเขาทันที
“เอ่อ……”
สีหน้าของจางเต๋อเซิ่งดูเป็นกังวล ในฐานะบอดี้การ์ด เขาไม่สามารถทิ้งเจ้านายของเขาไว้ได้ แต่ถ้าอยู่ที่นี่ต่อ เขาก็กลัวว่าจะไปยั่วโมโหหลงไห่เซิงเข้า
“ประธานหลินครับ……” ด้วยความร้อนใจ เขาจึงหันไปหาหลินโม่โม่อย่างช่วยไม่ได้
หลินโม่โม่จึงพูดขึ้น “ห้าวตง กลับกันก่อนเถอะ พวกเราไม่ควรยั่วโมโหพวกของหลงไห่เซิง ไม่อย่างนั้นอาจจะนำปัญหามาสู่หลินชื่อกรุ๊ปได้”
ฉินห้าวตงไม่สนใจหลงไห่เซิงสักนิด แต่พอเขาลองคิดดูแล้ว เขาไม่ได้อยู่คนเดียวอีกต่อไป มันคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ถ้าเขาต้องนำปัญหามาสู่หลินชื่อกรุ๊ปเพราะเรื่องเล็กน้อยแค่นี้
พอคิดมาถึงตรงนี้แล้ว เขาจึงหันไปพูดกับแม่หนูน้อย “ถังถัง พวกเราไปเล่นอย่างอื่นก่อน แล้วค่อยมาเล่นตรงนี้ดีไหม?”
“ทำไมล่ะคะ? ถังถังรอตั้งนานเลยนะคะ!” แม่หนูน้อยพูดอย่างไม่เต็มใจ
“เพราะเด็กคนนั้นป่วยไงลูก ต้องเล่นม้าหมุนคนเดียว พวกเราสละให้เขาเล่นดีไหม?”
ฉินห้าวตงรู้อยู่แล้วว่าเด็กผู้ชายตัวเล็กในอ้อมแขนของหญิงวัยกลางคนป่วยหนัก และที่เด็กคนนั้นหัวล้านเป็นเพราะทำเคมีบำบัดมา
“อ้อ! ก็ได้ค่ะ!” แม่หนูน้อยพยักหน้า
ฉินห้าวตงอุ้มแม่หนูน้อย ขณะที่ทุกคนกำลังจะเดินออกจากสวนสนุก ในเวลานี้หญิงวัยกลางคนคนนั้นอุ้มเด็กผู้ชายยืนอยู่ที่หน้าประตูสวนสนุกแล้วตะโกนเข้ามาด้านใน “เกิดอะไรขึ้น? ทำไมพวกเธอยังไม่ไปสักที?”
จางเต่อเซิ่งรีบวิ่งไปรับหน้าด้วยรอยยิ้มแล้วพูดขึ้น “พวกเราเป็นคนของหลินชื่อกรุ๊ป พวกเราจะรีบไปทันทีครับ กำลังจะไปแล้วครับ!”
สาเหตุที่เขาอ้างถึงชื่อของหลินชื่อกรุ๊ปขึ้นมาก่อนนั้น เป็นเพราะกลัวว่าพวกลูกน้องของพี่หลงจะวู่วามจนใช้ความรุนแรง อย่างไรก็ตามต่อให้หลินชื่อกรุ๊ปจะมีสถานะในเจียงหนานอยู่ไม่น้อย แต่คาดว่าหลงไห่เซิงก็คงไว้หน้าแค่ไม่เท่าไร
เมื่อผู้หญิงคนนั้นได้ยินชื่อของหลินชื่อกรุ๊ป เธอแค่ฟึดฟัดเล็กน้อยแล้วตะคอก “รีบไสหัวไปซะ!”
เธอคือภรรยาของหลงไห่เซิง มีชื่อว่าเฉาถิง เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ได้ใส่ใจหลินชื่อกรุ๊ปมากนัก
ฉินห้าวตงขมวดคิ้ว ขณะที่เขากำลังจะอารมณ์ขึ้น ก็ถูกหลินโม่โม่รีบดึงไว้แล้วพยายามลากเขาออกไปนอกสวนสนุก มันไม่ใช่เรื่องดีสำหรับหลินชื่อกรุ๊ปแน่ ถ้าไปทำให้หลงไห่เซิงโมโหเข้า
ในเวลานี้เด็กผู้ชายในอ้อมแขนของเฉาถิงมองเห็นถังถังจึงพูดขึ้น “แม่ครับ น้องสาวคนนั้นสวยมากเลย ผมอยากจะเล่นกับเธอครับ!”
เฉาถิงหันไปมองลูกชายที่อยู่ในอ้อมแขนของเธอ สีหน้าที่ดุร้ายและหยิ่งผยองของเธอเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนทันที “เสี่ยวเป่า ร่างกายของลูกอ่อนแอเกินไป พวกเราเล่นที่นี่กันเองดีกว่าไหม?”
พูดจบ เธอจึงหันไปตะโกนใส่ฉินห้าวตงและคนอื่น “มัวทำอะไรยืดยาดอยู่ ยังไม่รีบออกไปอีก!”
“ไม่เอา แม่ครับ ผมอยากเล่นกับน้องสาวคนนั้น ผมของเธอสวยมากเลยครับ!”
เด็กผู้ชายเริ่มร้องไห้งอแง
เฉาถิงหันไปมองยังถังถัง สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความดุร้าย “ต้าเฟย ไปดึงผมบนหัวของนังเด็กผู้หญิงนั่นออกให้หมด ดูสิว่าเธอจะยังดึงความสนใจของลูกชายฉันได้อีกหรือเปล่า”
ฉินห้าวตงไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของเขาได้อีกต่อไป ถังถังคือลูกสาวสุดรักสุดหวงของเขา ไม่มีใครสามารถแตะต้องเธอได้แม้ปลายเส้นผม
ขณะที่เฉาถิงกำลังตะโกนเสียงดังอยู่ตรงนั้น กลับรู้สึกเจ็บที่ใบหน้า เธอได้ยินเพียงเสียง ‘เพี้ยะ!’ ฝ่ามือขนาดใหญ่ตบเข้าที่ใบหน้าของเธอ
ในเวลานี้ ทั้งสวนสนุกเข้าสู่ความเงียบ ราวกับเวลาหยุดหมุน
จางเต๋อเซิ่งอ้าปากค้าง มันกว้างพอที่จะยัดหมั่นโถวเข้าไปได้ทั้งลูก ต่อให้ฝันไปเขาก็ไม่คาดคิดเลยว่าฉินห้าวตงจะกล้าลงมือตบหน้าเฉาถิง เฉาถิงเป็นใครน่ะเหรอ? เธอเป็นภรรยาของพี่หลง เป็นถึงนายหญิงใหญ่แห่งโลกใต้ดินของเจียงหนานเชียวนะ
หลินโม่โม่เองก็ตกใจเช่นกัน เธอไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าฉินห้าวตงที่มีสีหน้ายิ้มแย้มตลอดเวลาจะดุร้ายได้ถึงเพียงนี้ เขาใช้ความรุนแรงได้โดยไม่ลังเลเลย
แต่ฉินห้าวตงกลับทำท่าทีราวกับว่าเขาทำเรื่องที่ไม่สำคัญอะไร เขาก้มลงไปพูดกับเด็กผู้ชายว่า “เด็กน้อย อย่าทำตามแม่ของหนูนะ ปากของแม่เธอมันดีจริงๆ!”
“ไอ้สารเลว! แกกล้าตบฉันเหรอ!” เฉาถิงอึ้งไปพักหนึ่งถึงจะดึงสติกลับมาได้ จากนั้นเธอตะโกนขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง “พวกแก สับมันเป็นชิ้นๆ เดี๋ยวนี้!”
ในเวลานี้ชายหัวโล้นรูปร่างสูงใหญ่ที่ชื่อว่าต้าเฟยรีบเดินเข้ามา ด้านหลังของเขามีหลงไห่เซิงที่กำลังโกรธจัดเดินตามมา
เขาเดินมาด้านหน้าฉินห้าวตงแล้วพูดขึ้นด้วยสีหน้าอึมครึม “ไอ้หนุ่ม แกกล้ามาก กล้าแตะต้องผู้หญิงของฉัน!”
ฉินห้าวตงพูดพลางหัวเราะ “ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่ผู้หญิงของคุณไม่รู้จักมารยาท ผมเลยช่วยคุณอบรมเธอสักหน่อย!”
จางเต๋อเซิ่งเริ่มรู้สึกว่าขาทั้งสองข้างของเขาสั่นเทา เขาสงสัยว่าฉินห้าวตงเป็นบ้าไปแล้ว เขาไม่เพียงแต่ตบหน้าเฉาถิง แต่ยังกล้าต่อปากต่อคำกับหลงไห่เซิงอีกด้วย นี่มันแย่มาก ไม่รู้ว่าหลงไห่เซิงจะฆ่าพวกเขาทุกคนด้วยความโกรธหรือเปล่า
เขาโค้งคำนับพลางพูดขึ้น “พะ……พี่หลง นี่เป็น……เป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน พวกเราเป็นคนของหลินชื่อกรุ๊ป”
“หลินชื่อกรุ๊ปงั้นเหรอ?” สีหน้าของหลงไห่เซิงดูเบาความดุร้ายลง เขาหันไปมองหลินโม่โม่พลางพูดขึ้นว่า “งั้นได้ เห็นแก่ที่ฉันเคยดื่มกับหลินจื่อเยวียนมาก่อน เอาแบบนี้แล้วกัน พวกคุณกลับไป แล้วส่งเขามาให้ฉัน”
พูดจบ เขาหันไปมองฉินห้าวตงอย่างเยือกเย็น ในฐานะผู้กุมอำนาจโลกใต้ดิน ดังนั้นจึงไม่มีใครกล้าทำให้เขาอับอายเช่นนี้
ในที่สุดจางเต๋อเซิ่งก็รู้สึกโล่งใจ ดูเหมือนว่าหลงไห่เซิ่งจะไม่ใช่คนไร้เหตุผลเหมือนภรรยาของเขา อย่างน้อยก็ยังเห็นแก่หน้าของหลินชื่อกรุ๊ปอยู่บ้าง เขาหันไปมองหลินโม่โม่อย่างรอคอยเพื่อหวังว่าเธอจะรีบพาพวกเขาออกไปจากที่นี่โดยเร็วที่สุด ใครจะไปรู้ล่ะว่าพี่หลงจะเปลี่ยนใจตอนไหน
หลินโม่โม่ลังเลอยู่ครู่หนึ่งและไม่ได้มีท่าทีออกไป เธอจับแขนของฉินห้าวตงและพูดกับหลงไห่เซิงว่า “ขอโทษด้วยค่ะพี่หลง แฟนของฉันทำอะไรวู่วามไปหน่อยจนใช้ความรุนแรงกับคุณนาย แต่ทางหลินชื่อกรุ๊ปยินดีที่จะชดเชยให้ พี่หลงพูดมาได้เลยค่ะว่าต้องการเงินเท่าไร พวกเราจะหามาให้ตามที่พี่หลงต้องการ!”
“เงินเหรอ? เงินเป็นสิ่งสุดท้ายที่ฉันต้องการ!” สีหน้าของหลงไห่เซิงเปลี่ยนไป “ในเมื่อฉันให้โอกาสแล้วพวกคุณปฏิเสธมัน งั้นก็ไม่ต้องไปมันทั้งหมดนี่แหละ!”
ความโกรธของเขาทวีความรุนแรงขึ้น ไอ้ผู้ชายที่ไหนไม่รู้กล้ามาตบภรรยาของเขาในที่สาธารณะแบบนี้ แถมในเวลานี้ยังมีผู้หญิงคนหนึ่งจะใช้เงินมาจัดการเรื่องนี้อีก ดูแล้วคำพูดของคนอย่างหลงไห่เซิงคงจะไร้ประโยชน์ ที่ปล่อยให้พวกหมาแมวมันมารังแกเขาได้!
พอฉินห้าวตงรู้ว่าหลินโม่โม่ไม่ทิ้งเขาไปในเวลาสำคัญ ในใจของเขาเกิดความรู้สึกอบอุ่นขึ้นมา สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าสาวน้อยคนนี้เป็นคนที่ซื่อสัตย์มาก
เขาส่งถังถังให้หลินโม่โม่ จากนั้นปกป้องสองคนแม่ลูกไว้ที่ด้านหลังของเขา แล้วหันไปพูดกับหลงไห่เซิงอย่างหยิ่งผยอง “คุณเป็นใครกัน? พวกเราจะไปหรือไม่ไป มันขึ้นอยู่กับคุณตอนไหน?”
จางเต๋อเซิ่งแอบร้องไห้ในใจ “จบแล้ว จบเห่แล้วจริงๆ พวกเราถูกสับเป็นชิ้นเนื้อแน่ ดูเหมือนว่าจะได้เห็นฉากที่หลงไห่เซิงระเบิดความเถื่อนออกมา!”
จบตอน