px

เรื่อง : คุณพ่อยอดหมอเทวดา (重生之奶爸医圣)
ตอนที่ 20 เอาเข็มมาแทงผมเถอะ


ตอนที่ 20 เอาเข็มมาแทงผมเถอะ

 

ฉินห้าวตงยิ้มอย่างเย็นชา "คุณคิดว่านี่คือยุคราชวงศ์ในอดีตหรือยังไง คิดว่าชาวต่างชาติสูงส่งกว่าคนจีนงั้นเหรอ? ในสายตาของผมมีแค่การเดิมพันเท่านั้น ไม่มีเรื่องล้อเล่น ไม่ว่าจะเป็นคนจีนหรือคนอเมริกา เมื่อแพ้ก็ต้องสูญเสียตามที่เดิมพันไว้"

 

น่าหลันอู๋เฟิงแทบจะร้องไห้ "ไม่ได้ คุณเจมส์คือผู้เชี่ยวชาญจากแพทยสมาคมโลก จะไปคุกเข่าคำนับนายในฐานะอาจารย์ได้อย่างไร……"

 

"ผู้เชี่ยวชาญงั้นเหรอ? คุณยังคิดว่าเขาสามารถเป็นผู้เชี่ยวชาญต่อหน้าผมได้ไหม? แค่ความรู้ทางการแพทย์อันน้อยนิดของเขา ในความเห็นของผมยังไม่ควรค่าแก่การเอ่ยถึงด้วยซ้ำ!"

 

ขณะที่น่าหลันอู๋เฟิงกำลังอยากจะพูดอะไรบางอย่างต่อ ทันใดนั้นคุณหมอเจมส์ก็คุกเข่าพรวดต่อหน้าฉินห้าวตงแล้วพูดขึ้นด้วยสีหน้าตื่นเต้นว่า "อาจารย์ คุณพูดถูกแล้ว เมื่อเทียบกับแพทย์แผนจีนอันน่ามหัศจรรย์ ทักษะทางการแพทย์ของผมไม่มีทางเทียบได้เลย ผมอยากจะนับถือคุณเป็นอาจารย์ ผมอยากเรียนการแพทย์แผนจีนอันน่ามหัศจรรย์กับคุณ!”

 

พอพูดจบ เขาพนมมือทั้งสองข้าง แล้วเริ่มก้มลงกราบฉินห้าวตง

 

“บ้าน่า นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”

 

ฉินห้าวตงเองก็ค่อนข้างจะสับสนกับการเปลี่ยนแปลงอันรวดเร็วของคุณหมอเจมส์เช่นกัน ชาวต่างชาติไว้หนวดคนนี้ควรที่จะปฏิเสธเดิมพันเพื่อรักษาหน้าตาของตัวเองสิ? ต่อให้ต้องสูญเสียตามที่เดิมพันไว้ เขาก็ไม่ควรที่จะแสดงสีหน้ารู้สึกผิดเช่นนี้นะ? ทำไมตอนนี้เขาทำท่าทีราวกับว่าเก็บสมบัติล้ำค้าได้เลยล่ะ?

 

อีกอย่างเขากำลังทำบ้าอะไรอยู่ การคำนับในฐานะที่นับถือเป็นอาจารย์ไม่ใช่คำนับแบบนี้สักหน่อย ไหนจะทำท่าพนมมือสองข้างอย่างเอาจริงเอาจังอีก แบบนี้มันไหว้พระไม่ใช่เหรอไง?

 

พวกเขาไม่รู้ว่าคุณหมอเจมส์ไปเรียนรู้วิธีการคำนับแบบนี้มาจากไหน เขาทำท่าเหมือนกับกำลังไหว้พระ เขาคำนับและก้มลงกราบฉินห้าวตงสามครั้ง

 

ถึงแม้ว่าเขาคนนี้จะเย่อหยิ่งเป็นอย่างมากในชีวิตประจำวัน แต่ที่จริงแล้วเขายังพอมีความสามารถที่แท้จริงอยู่บ้าง อีกอย่างเขาชอบหมกมุ่นอยู่กับความรู้ทางการแพทย์ ในวันนี้พอได้เห็นการแพทย์แผนจีนอันน่าทึ่งของฉินห้าวตง เขาจึงมีความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้า ดังนั้นจึงรีบคุกเข่าคำนับฉินห้าวตงในฐานะอาจารย์ด้วยความเต็มใจทันที

 

“อาจารย์ รับผมไว้เป็นศิษย์ด้วยเถอะ ผมอยากเรียนการแพทย์แผนจีนอันน่ามหัศจรรย์จากคุณ ผมอยากเรียนการแพทย์แผนจีนกับคุณ……”

 

คุณหมอเจมส์พูดด้วยสีหน้าจริงจัง

 

ฉินห้าวตงรู้สึกจนปัญญา เรื่องราวมันไม่ควรเป็นแบบนี้ สาเหตุที่เขาเดิมพันให้คุณหมอเจมส์คุกเข่าคำนับเขาในฐานะอาจารย์ เป็นเพราะเขาต้องการรักษาหน้าตาของการแพทย์แผนจีน แต่เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะต้องสอนความรู้ทางแพทย์แผนจีนให้แก่ชาวต่างชาติคนนี้

 

ในขณะที่คุณหมอเจมส์กำลังพยายามจะคำนับเขาในฐานะอาจารย์ ในเวลานี้เขาเริ่มไม่รู้แล้วว่าควรจะทำอย่างไรดี

 

พอเห็นว่าเขาไม่ได้ตอบรับ คุณหมอเจมส์จึงพูดอย่างกระตือรือร้นว่า “อาจารย์ ผมอยากเรียนวิชาทางการแพทย์แผนจีนกับคุณจริงๆ คุณวางใจได้ ผมมีความอดทนมากพอ มาเลย เอาเข็มมาแทงผมเลย ผมมั่นใจว่าทนไหวอย่างแน่นอน!”

 

นี่มันอะไรกันเนี่ย? ฉินห้าวตงรู้สึกเหมือนมีตัวอัลปากานับหมื่นตัววิ่งผ่านหัวใจของเขา คำพูดของชาวต่างชาติคนนี้ทำไมมันถึงน่าอึดอัดได้ขนาดนี้ แถมยังพูดมาเป็นแนวเดียวกับพวกที่ชอบใช้น้ำตาเทียนหรือเครื่องมือนั่นอีก ฉันเป็นคนแบบนั้นเหรอ?

 

คนอื่นๆ ต่างก็พากันตกตะลึงตาค้าง โดยเฉพาะน่าหลันอู๋เฟิง ลูกตาของเขาแทบจะหลุดออกจากเบ้าตกลงบนพื้น ตอนแรกเขาต้องการช่วยคุณหมอเจมส์หาหนทางที่จะปฏิเสธการเดิมพันครั้งนี้ แต่นึกไม่ถึงเลยว่าชาวต่างชาติคนนี้จะคุกเข่าคำนับฉินห้าวตงในฐานะอาจารย์

 

"คุณลุกขึ้นก่อนเถอะ!" ฉินห้าวตงคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ผมจะลงทะเบียนคุณไว้ในฐานะลูกศิษย์ก่อนแล้วกัน แต่ถ้าหากอยากเรียนความรู้ทางการแพทย์แผนจีน คุณจะต้องเรียนภาษาจีนให้ดีก่อน รอให้ภาษาจีนของคุณดีแล้วค่อยมาเรียนกับผม!”

 

สาเหตุที่ฉินห้าวตงเสนอให้คุณหมอเจมส์เป็นลูกศิษย์ของเขา เพราะต้องการยืมชื่อเสียงของคุณหมอเจมส์มาเพิ่มสถานะของการแพทย์แผนจีน เขารู้ว่าในปัจจุบันสถานะของแพทย์แผนจีนกำลังลดลงและเขาต้องการที่จะปรับปรุงชื่อเสียงของการแพทย์แผนจีน ซึ่งตอนนี้หากมีผู้มีอำนาจในแพทยสมาคมโลกยอมรับเขาในฐานะอาจารย์ จะยิ่งช่วยทำให้ในวงการการแพทย์เกิดความรู้สึกดีต่อแพทย์แผนจีนได้

 

"อาจารย์ ภรรยาของผมเป็นคนจีน ปกติพวกเราจะใช้ภาษาจีนพูดคุยกัน ดังนั้นภาษาจีนของผมจึงดีมาก ตอนนี้สามารถเรียนรู้ได้แล้ว"

 

คุณหมอเจมส์ลุกขึ้นมาจากบนพื้น แต่สีหน้าของเขายังคงกระตือรือร้นเหมือนเดิม

 

“เอ่อ……” ตอนนี้ฉินห้าวตงถึงจะเริ่มเข้าใจ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมชาวต่างชาติคนนี้พูดภาษาจีนได้ดีเช่นนี้ ที่แท้เขาแต่งงานกับภรรยาชาวจีนนี่เอง

 

“คุณรู้ไหมว่าหยินหยางอะไรคือ? ห้าธาตุเบญจเพสอะไรคือ?”

 

“หยินหยางคือแพะอะไรเหรอ? เป็นสายพันธุ์พิเศษของประเทศจีนใช่ไหม?” คุณหมอเจมส์ถามด้วยสีหน้ามึนงง เห็นได้ชัดว่าเขาพูดภาษาจีนได้แค่ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับวัฒนธรรมจีนเลย

 

“กลับไปตั้งใจเรียนภาษาจีนจากภรรยาของคุณเถอะ เมื่อคุณเข้าใจหยินหยางและห้าธาตุเบญจเพสแล้ว คุณถึงจะสามารถเรียนรู้การแพทย์แผนจีนได้” ฉินห้าวตงพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “อีกอย่างอย่าลืมข้อตกลงของเรา คุณรีบกลับไปขอโทษการแพทย์แผนจีนต่อหน้าสื่อระดับโลกด้วย”

 

“อาจารย์ เมื่อผมเรียนภาษาจีนได้ดีแล้ว และทำความเข้าใจหยินหยางอะไรนั่นได้แล้ว ผมจะมาเรียนการแพทย์แผนจีนกับคุณ” ความเย่อหยิ่งในตอนแรกของคุณหมอเจมส์ได้หายไป ในเวลานี้เขาพูดด้วยความเคารพว่า “อาจารย์ คุณวางใจเถอะ พอผมกลับไปยังสหรัฐอเมริกา ผมจะรีบทำตามคำพูดที่ให้ไว้ทันที ผมจะต้องทำให้คนจำนวนมากรู้จักว่าการแพทย์แผนจีนคืออะไร ให้พวกเขารู้ถึงความมหัศจรรย์ของแพทย์แผนจีน”

 

พูดจบเขาจึงหันหน้าไปทางน่าหลันอู๋เฟิง "คุณชายน่าหลัน คุณรีบไปส่งผมกลับเถอะ ผมจะรีบไปคิดบัญชีกับไอ้พวกที่ใส่ร้ายการแพทย์แผนจีน ความรู้ทางการแพทย์ที่น่ามหัศจรรย์เช่นนี้ เขามาพูดว่ามันเป็นเรื่องหลอกลวงได้ยังไง พวกนี้สมควรตายจริงๆ"

 

น่าหลันอู๋เฟิงกลุ้มใจไปพักหนึ่ง เขาคิดไม่ถึงเลยว่า ผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงระดับโลกที่เขาจ่ายเงินเป็นจำนวนมหาศาลเพื่อเชิญตัวมาไม่เพียงแค่ไม่ได้รักษาอาการป่วยของคุณปู่ให้หายดี ในทางตรงกันข้ามกลับกลายเป็นลูกศิษย์ของฉินห้าวตงไปแล้ว

 

อย่างไรก็ตามเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเรื่องที่เกิดขึ้นได้ จากนั้นเขาจึงหยิบเอากุญแจรถยนต์ที่มีตราสัญลักษณ์ของ Lamborghini ออกมาแล้วหันไปพูดกับน่าหลันเจี๋ย "คุณปู่ครับ ผมจะไปส่งคุณหมอเจมส์กลับประเทศก่อน อีกสองสามวันจะเป็นวันเกิดของน้องอู๋เซี๋ย ผมซื้อรถมาเป็นของขวัญวันเกิดให้เธอ ผมฝากไว้ที่คุณปู่ก่อนแล้วกัน"

 

น่าหลันอู๋ชวงพึ่งจะรู้ว่าที่แท้ Lamborghini Centennario คันนั้นคือของขวัญวันเกิดที่น่าหลันอู๋เฟิงเตรียมไว้ให้กับลูกพี่ลูกน้องที่มีชื่อว่าน่าหลันอู๋เซี๋ย น่าหลันอู๋เซี๋ยเป็นลูกสาวของคุณลุงน่าหลันหงเฟย เขาคงอยากประจบประแจงคุณลุงโดยการมอบของขวัญชิ้นใหญ่ที่มีค่าเช่นนี้ให้กับลูกสาวของคุณลุง

 

น่าหลันอู๋เฟิงพูดจบจึงวางกุญแจรถไว้ที่โต๊ะด้านข้าง จากนั้นพาพวกของคุณหมอเจมส์เดินออกไป

 

หลังจากที่คนเหล่านี้เดินออกไปแล้ว น่าหลันเจี๋ยจึงสั่งให้แพทย์ด้านสุขภาพและยามรักษาความปลอดภัยออกไปจากตรงนี้ให้หมด แล้วพูดขึ้นอีกครั้งด้วยความเคารพว่า "หมอเทวดา เธอช่วยชีวิตฉันเอาไว้ ต่อไปนี้เธอคือผู้มีพระคุณของตระกูลน่าหลัน!"

 

“ไม่เป็นไรครับ!” ฉินห้าวตงพยักหน้าเล็กน้อยแล้วพูดขึ้นอีกว่า “การอุดตันของหลอดเลือดถูกขับออกไปหมดแล้ว แต่ไม่ต้องฝึกวรยุทธ์แล้ว พลังภายในของตระกูลคุณมีคุณสมบัติเป็นธาตุเย็น ถ้าหากยังฝึกต่อไปอาจจะทำร้ายหลอดเลือดส่วนนี้ได้อีกครั้ง!”

 

สีหน้าของน่าหลันเจี๋ยเปลี่ยนไป เขาฝึกวรยุทธ์พลังภายในมาเป็นระยะเวลาหลายปีขนาดนี้ ตอนนี้ประสบความสำเร็จเล็กๆ แล้ว ถ้าจะให้เขามาล้มเลิกแบบนี้คงทำให้เขารู้สึกไม่เต็มใจ ใครก็ตามที่เคยมีอำนาจเหนือกว่าคนทั่วไป เขาผู้นั้นมักจะเจ็บปวดเมื่อต้องสูญเสียมันไปในทันที

 

ฉินห้าวตงหันไปหาน่าหลันอู๋ชวง "พลังภายในของตระกูลพวกเธอมีปัญหาจริงๆ ต่อไปนี้เธอก็ไม่ต้องฝึกแล้ว ไม่อย่างนั้นเธอจะไม่สามารถเป็นแม่คนได้ตลอดชีวิต"

 

น่าหลันอู๋ชวงหน้าถอดสีในทันที เธอหลงใหลหมกมุ่นอยู่กับศิลปะการต่อสู้มาตั้งแต่เด็ก ดังนั้นจึงมาฝึกพวกวรยุทธ์เหล่านี้กับคุณปู่ของเธอ แต่ในฐานะผู้หญิงคนหนึ่ง เธอยังไม่อยากสูญเสียสิทธิ์ความเป็นแม่ไป

 

น่าหลันเจี๋ยพูดขึ้นอย่างร้อนรนว่า " หมอเทวดา ฉันรู้ว่าเธอเป็นคนมีความสามารถมาก เธอพอจะมีวิธีบ้างไหม ตระกูลน่าหลันของพวกเราจะไม่มีวันลืมบุญคุณอันยิ่งใหญ่ของเธอไปตลอดชีวิต!"

 

ถึงแม้ว่าน่าหลันอู๋ชวงจะไม่ได้พูดอะไร แต่เธอมองไปยังฉินห้าวตงด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความหวัง

 

"เอ่อ….." ฉินห้าวตงลังเลไปพักหนึ่ง เขารู้สึกว่าปู่และหลานสาวสองคนนี้ในตระกูลน่าหลันเป็นคนดีจริง จึงพูดขึ้นว่า “งั้นก็ได้ครับ ฝึกวรยุทธ์ของคุณให้ผมดูหน่อยแล้วกัน”

 

พอเห็นฉินห้าวตงรับปากว่าจะช่วย น่าหลันเจี๋ยจึงแสดงสีหน้าดีใจออกมา แล้วรับนั่งขัดสมาธิเพื่อเริ่มฝึกฝนวรยุทธ์ของตระกูลน่าหลัน

 

หลังจากผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง สัจปราณของน่าหลันเจี๋ยหมุนวนเป็นวงกลมขนาดใหญ่ ฉินห้าวตงเองก็เห็นเช่นกัน ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมวรยุทธ์ชนิดนี้ถึงสร้างความเสียหายให้ร่างกายคนได้มากขนาดนี้ จุดอ่อนของมันช่างมากมายเหลือเกิน

 

"เอาล่ะ ไม่ต้องฝึกแล้วครับ!" เขาหันไปพูดกับน่าหลันเจี๋ย "วรยุทธ์ของตระกูลพวกคุณยังมีข้อบกพร่องอยู่!"

 

น่าหลันเจี๋ยพูดขึ้น "มีข้อบกพร่องจริง ตอนที่บรรพบุรุษถ่ายทอดมาให้ก็เคยพูดถึงเรื่องนี้เหมือนกัน แต่ว่าการมีวรยุทธ์กำลังภายในเป็นโอกาสที่หาได้ยากยิ่ง จะไปสนใจอะไรได้มากมายล่ะ?"

 

"เป็นเพราะเหตุนี้แหละ ต่อมาลูกหลานในตระกูลน่าหลันจึงไม่ชอบเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ ฉันเองก็ไม่ได้บังคับพวกเขา มีแค่อู๋ชวงกับอู๋เซี๋ยนี่แหละที่ชอบกระบี่กระบองมาตั้งแต่เด็ก มาเกาะติดฉันแจเพื่อขอให้สอนพวกเธอ ฉันเลยสอนให้พวกเธอ"

 

ฉินห้าวตงพูดขึ้น "เอาแบบนี้แล้วกัน ผมพึ่งจะมองเห็นว่าวรยุทธ์ของตระกูลคุณมีข้อบกพร่องทั้งหมด 18 จุด ผมจะช่วยพวกคุณปรับมัน ต่อไปเวลาฝึกจะได้ไม่เกิดปัญหาอีก!”

 

“อะไรนะ? นายจะปรับวรยุทธ์ของตระกูลน่าหลันของเราเหรอ? นายเป็นใครกัน? เป็นบรรพจารย์แห่งยุทธเหรอ?”

 

น่าหลันอู๋ชวงทำสีหน้าไม่เชื่อ ถึงแม้ว่าเธอจะรู้ว่าทักษะทางการแพทย์ของฉินห้าวตงจะน่าทึ่ง แต่การปรับวรยุทธ์ไม่ใช่การรักษาอาการคนไข้ ผู้ที่สามารถสร้างวรยุทธ์ได้มีแต่พวกบรรพจารย์เท่านั้น ถึงแม้ว่าวรยุทธ์ของตระกูลน่าหลันจะไม่ได้ดีมาก ยังมีข้อบกพร่องอยู่บางส่วน แต่ก็ไม่สามารถที่จะปรับเปลี่ยนตามใครก็ตามที่บอกว่าเขาเปลี่ยนได้

 

อีกอย่างพลังภายในนั้นสำคัญมาก หากประมาทเพียงเล็กน้อยอาจนำไปสู่ความเสียหายที่ไม่สามารถแก้ไขได้ โดยเฉพาะความเสียหายต่อชีวิตของผู้ฝึกฝนเอง

 

ฉินห้าวตงยิ้มบางๆ เขาคือหนึ่งในห้ามหาเทพแห่งโลกเซียน ความรู้ของเขากว้างไกลเกินกว่าที่คนทั่วไปจะจินตนาการได้ การปรับเปลี่ยนวรยุทธ์ระดับต่ำเช่นนี้ง่ายเหมือนกับการกินข้าวกินน้ำ

 

อย่างไรก็ตามเรื่องแบบนี้ขึ้นอยู่กับโชคชะตา ถ้าตระกูลน่าหลันเชื่อในตัวเขา เขาก็จะชี้แนะให้สักหน่อย ถ้าไม่เชื่อก็ไม่เป็นไร แต่เขาพึ่งจะรักษาน่าหลันเจี๋ยจนหาย และชำระคืนโสมโลหิตอายุร้อยปีไปแล้ว

 

เป็นเพราะเหตุนี้เอง เขาจึงไม่ได้พูดอะไร แค่มองน่าหลันเจี๋ยอย่างเงียบๆ

 

น่าหลันเจี๋ยลังเลไปพักหนึ่ง แต่ไม่นานเขาก็พูดขึ้นต่อ “งั้นคงต้องรบกวนหมอเทวดาแล้ว!”

 

เมื่อเห็นว่าชายชราเลือกที่จะเชื่อในตัวเขาได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้ ฉินห้าวตงจึงพยักหน้าเบาๆ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมน่าหลันเจี๋ยได้รับตำแหน่งหัวหน้าตระกูลน่าหลัน เขาเป็นผู้มองการณ์ไกลและมีจิตใจเด็ดเดี่ยว

 

น่าหลันอู๋ชวงยังคงพูดอย่างไม่วางใจ “คุณปู่คะ แบบนี้จะดีเหรอคะ? ถ้าหากให้เขาปรับเปลี่ยนแล้วเกิดความเสียหายขึ้นมาล่ะค่ะ?

 

น่าหลันเจี๋ยยิ้ม “มีอะไรต้องกลัวอีก หมอเทวดาคนนี้เป็นคนมอบชีวิตให้แก่ปู่ ต่อให้ต้องทิ้งมันไปก็ไม่ถือเป็นความสูญเสีย อีกอย่างปู่เชื่อในตัวหมอเทวดา ว่าจะต้องสร้างปาฏิหาริย์ได้อย่างแน่นอน”

 

พูดจบ เขาหันไปพูดกับฉินห้าวตงต่อ “หมอเทวดา ต้องรบกวนเธอแล้วล่ะ ถ้าเธอสามารถทำให้ฉันผ่านมันไปได้ ตระกูลน่าหลันจะต้องตอบแทนเธออย่างหนักแน่นอน!”

 

ฉินห้าวตงไม่ได้ดูเคร่งเครียดเหมือนปู่และหลานสาวคู่นี้ เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ฝึกอีกรอบเถอะครับ ถ้ามีข้อบกพร่องตรงไหนให้ปรับเปลี่ยนเส้นทางการเคลื่อนไหวของสัจปราณใหม่ตามที่ผมบอกแล้วกัน”

 

น่าหลันเจี๋ยนั่งขัดสมาธิอีกครั้ง แล้วเริ่มฝึกวรยุทธ์ที่ถ่ายทอดมาจากในตระกูล

 

ครู่ต่อมา ฉินห้าวตงกล่าว่า "ให้สัจปราณปล่อยออกมาจากจุดจินเหมินตรงฝ่าเท้าไปยังเส้นลมปราณถุงน้ำดีแล้วอ้อมไปยังจุดเจ็ดนิ้วหยางเจียว......"

 

วิธีการเคลื่อนไหวสัจปราณแบบนี้แตกต่างจากของการถ่ายทอดมาของตระกูลน่าหลัน แต่ในเมื่อเขาเลือกที่จะเชื่อฉินห้าวตง น่าหลันเจี๋ยจึงไม่ลังเลที่จะเปลี่ยนทิศทางการไหลเวียนของสัจปราณ

 

ในไม่ช้า เขาก็รู้ว่าฉินห้าวตงพูดถูก หลังจากที่เปลี่ยนทิศทางการไหลของสัจปราณแล้ว ความรู้สึกเย็นยะเยือกและความมืดมัวไม่ได้ก่อตัวขึ้นในจุดตันเถียนอีก ในทางตรงกันข้ามมันกลับให้ความรู้สึกอบอุ่นสบายตัว

 

การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ทำให้น่าหลันเจี๋ยเชื่อมั่นในตัวฉินห้าวตงมากยิ่งขึ้น เขาได้ปรับเปลี่ยนข้อบกพร่องที่เหลือทั้งหมด 17 จุดที่เหลือตามคำแนะนำของฉินห้าวตง

 

หลังจากเกิดพลังหมุนวนเป็นวงกลมขนาดใหญ่ เขาฝึกฝนโดยเคลื่อนไหวพลังตามทิศทางการเคลื่อนไหวแบบใหม่อีกสองครั้ง มันไม่เพียงแต่ทำให้รู้สึกว่าความหนาวเย็นและความมืดมัวแบบเมื่อก่อนได้หายไป ในทางตรงกันข้ามสัจปราณของเขากับดูแข็งแกร่งและบริสุทธิ์มากยิ่งขึ้น ทันใดนั้นในร่างกายของเขาเกิดเสียงดัง ‘ซ่า’ ออกมา ในที่สุดเขาก็บรรลุแล้ว!

 

จบตอน

 

รีวิวผู้อ่าน