ตอนที่ 7 แม่หนูน้อยป่วยซะแล้ว
หลินโม่โม่ลุกจากเตียงมาขยับแขนขยับขาที่นอนนานจนแข็งทื่อ เธอรู้สึกว่าทุกอย่างดูฟื้นฟูเป็นเหมือนตอนก่อนที่เธอจะได้รับบาดเจ็บ ฉินห้าวตงพูดไว้ไม่ผิด เธอสามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้วจริงๆ จึงมอบหมายให้อันปี้หรูไปดำเนินการเรื่องออกจากโรงพยาบาลแทน
ตอนที่พวกเขาเดินออกมาจากโรงพยาบาล รถหรูหลายคันขับเข้ามาจอดที่หน้าประตู จางเต๋อเซิ่งและบอดี้การ์ดสิบกว่าคนพอเห็นหลินโม่โม่จึงรีบเดินเข้ามา หลังจากเมื่อวานที่เกิดอุบัติเหตุครั้งนั้น หลินจื่อเยวียนจึงเพิ่มความคุ้มกันให้แก่ลูกสาวของเขา
แต่คนที่มากลับมีแต่พวกบอดี้การ์ด ไม่มีแม้เงาของแม่หนูน้อย ทำให้ฉินห้าวตงรู้สึกผิดหวังนิดหน่อย แต่ดีที่เขาพึ่งจะหาทางให้ตัวเองโดยการตามหลินโม่โม่ไปขึ้นรถเพื่อกลับไปรักษาต่อที่บ้าน ไม่อย่างนั้นวันนี้เขาคงไม่ได้เห็นลูกสาวเข้าแล้วจริงๆ
ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน อันปี้หรูกลับบริษัทเพื่อไปจัดการงาน ฉินห้าวตงเดินตามหลินโม่โม่เข้าประตูบ้านไป พอเดินเข้าประตูไป ภาพที่เขาเห็นก็คือบรรยากาศแห่งความวุ่นวาย หลินจื่อเยวียนกำลังอุ้มถังถังเดินออกประตูมาด้วยความตื่นตระหนก ด้านหลังของเขามีแพทย์หญิงคนหนึ่งสวมเสื้อกาวน์สีขาวและหน้ากากอนามัย
แม่หนูน้อยซบอยู่ในอ้อมกอดของหลินจื่อเยวียน ดูอ่อนแอ สีหน้าดูหมองคล้ำ มองไม่เห็นถึงพลังและความสดใสแบบเมื่อวาน
"พ่อคะ นี่มันเกิดอะไรขึ้นคะ?" หลินโม่โม่รีบเดินเข้าไปถาม
"โม่โม่ ลูกหายดีแล้วจริงๆ เหรอ?" หลินจื่อเยวียนพอเห็นลูกสาวก็ตกใจเล็กน้อย จากนั้นจึงพูดขึ้นว่า “ถังถังป่วยแล้ว ตัวร้อนจี๋เลย พ่อกำลังเตรียมพาเธอไปโรงพยาบาล”
“เกิดอะไรขึ้นคะ? ร่างกายของถังถังแข็งแรงมาโดยตลอด ทำไมถึงป่วยได้ล่ะคะ?” หลินโม่โม่ถามอย่างเป็นกังวล
หลินจื่อเยวียนจึงพูดตอบ “อาจเป็นเพราะเมื่อคืนนี้ตอนอยู่ที่โรงพยาบาลอากาศเย็นเกินไป พอตอนกลับมาจึงเริ่มตัวร้อน คุณหมอเกาให้กินยาสองสามรอบแล้วก็ยังไม่หาย ดังนั้นเลยจะพาไปโรงพยาบาล”
คุณหมอเกาที่เขาพูดถึงมาทั้งหมดคือเกาเยี่ยนที่ยืนอยู่ด้านข้าง ซึ่งเป็นหมอประจำตระกูลของพวกเขา ตระกูลใหญ่อย่างพวกเขาจะต้องมีหมอประจำตระกูลคอยดูแลรักษาอยู่ ปกติถ้าป่วยเพียงเล็กน้อยไม่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาล
เกาเยี่ยนก้าวออกไปด้านหน้าเพื่ออธิบายให้หลินโม่โม่ฟัง “คุณหนูหลินคะ ฉันพึ่งจะให้ยาลดไข้ที่ดีที่สุดและยาปฏิชีวนะที่ทันสมัยที่สุดแก่ถังถัง แต่มันกลับไม่ได้ผลอะไรเลยค่ะ ตอนนี้ถังถังไข้สูงถึง 39.5 องศา ฉันสงสัยว่าเธอจะติดเชื้อไวรัสสายพันธ์ใหม่เข้า นี่มันเกินกว่าขอบเขตเงื่อนไขทางการรักษาของครอบครัวเราที่จะสามารถรักษาได้ ดังนั้นเราควรไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจเลือดวินิจฉัยให้เร็วที่สุดค่ะ!”
“อะไรนะ คุณให้ถังถังใช้ยาปฏิชีวนะเหรอ? คุณไม่รู้เหรอว่ายาปฏิชีวนะส่งผลเสียต่อเด็กเล็กน่ะ?”
ฉินห้าวตงได้ยินมาถึงตรงนี้ก็เริ่มโกรธจนหัวร้อน แม่หนูน้อยเป็นสิ่งล้ำค่าที่สุดในชีวิตของเขา ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถทำร้ายเธอได้แม้เพียงเล็กน้อย
“เธอกำลังตั้งคำถามกับทักษะทางการแพทย์ของฉันอยู่เหรอ? ฉันทำการรักษาล่วงหน้าตามแผนการรักษาที่ทันสมัยที่สุดจากสหรัฐอเมริกาเลยนะ” เกาเยี่ยนพูดจบถึงจะสังเกตเห็นฉินห้าวตงที่อยู่ด้านหลังหลินโม่โม่ เธอจึงถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เธอเป็นใครกัน? เธอเข้าใจทักษะทางการแพทย์เหรอ? ทำไมถึงมาตั้งคำถามกับฉัน?”
หลินโม่โม่จึงพูดอธิบาย “พี่เกา นี่คือคุณหมอฉิน ฉินห้าวตง”
เกาเยี่ยนเป็นคนที่มักจะภูมิใจในตัวเองเสมอ พอเห็นฉินห้าวตงที่มีอายุแค่ประมาณยี่สิบต้นๆ จึงไม่มองเขาอยู่ในสายตา แถมยังพูดอย่างเหยียดหยามอีกว่า “คุณหนูหลินคะ ระดับทักษะทางการแพทย์ของฉันคุณเองก็รู้ดีมาโดยตลอด มันไม่สามารถที่จะให้หมอคนไหนมาตั้งคำถามก็ได้”
ในเวลานี้ แม่หนูน้อยที่ตอนแรกอ่อนเพลียดูปวกเปียก แต่พอได้ยินเสียงของฉินห้าวตง เธอจึงพยายามที่จะลืมตาขึ้นแล้วพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “คุณอาหมอเทวดาช่วยหนูด้วย ถังถังทนไม่ไหวแล้ว ถังถังกำลังจะตายแล้ว”
หลินโม่โม่คือประธานกรรมการของหลินชื่อกรุ๊ปคนปัจจุบัน เรื่องที่เธอได้รับบาดเจ็บถือเป็นความลับทางการค้าระดับสูง ซึ่งเกาเยี่ยนยังไม่รู้เรื่องนี้
พอได้ยินแม่หนูน้อยเรียกฉินห้าวตงว่าคุณอาหมอเทวดา สีหน้าของเธอยิ่งดูถูกเหยียดหยามมากขึ้น
“หมอเทวดาเหรอ น่าตลกสิ้นดี ก็แค่เด็กโง่คนหนึ่งที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเท่านั้น!”
เสียงพูดของเธอไม่ดัง แต่ทุกคนในห้องได้ยินทั้งหมด สีหน้าของหลินจื่อเยวียนและหลินโม่โม่เริ่มเปลี่ยนไปเล็กน้อย เพราะกลัวว่าฉินห้าวตงจะโกรธ
เดิมทีฉินห้าวตงไม่สนใจผู้หญิงคนนี้ที่มักคิดว่าตัวเองถูกเสมออยู่แล้ว เขารับแม่หนูน้อยมาจากอ้อมกอดของหลินจื่อเยวียน “คุณหลิน เอาถังถังมาให้ผมแล้วกัน อาการป่วยของเธอต่อให้ไปถึงโรงพยาบาลก็รักษาไม่ได้!”
เขามองออกแล้วว่าอาการป่วยของแม่หนูน้อยไม่ใช่ติดเชื้อไวรัสสายพันธ์ใหม่อะไรนั่น แต่เกิดจากการที่ร่างกายของเด็กน้อยอ่อนแอ ชี่พิฆาตที่โรงพยาบาลหนาแน่นมาก เมื่อคืนเธอสูดหายใจเอาชี่พิฆาตเข้าไปจึงทำให้ตัวร้อน ถ้าหากไม่รีบนำเอาชี่พิฆาตออกจากร่างกายให้หมด มันจะเป็นอันตรายต่อร่างกายของเธออย่างมาก
“คุณหมอฉิน คงต้องรบกวนคุณแล้วล่ะ!”
หลินจื่อเยวียนพูดขึ้นอย่างเกรงใจ ตอนนี้เขาชื่นชมทักษะทางการแพทย์ของฉินห้าวตงเป็นอย่างมาก
เกาเยี่ยนพูดตะโกนขึ้น “ไม่ได้ คุณหลินคะ สถานการณ์ของถังถังตอนนี้อันตรายมาก ไม่สามารถโยนกันไปโยนกันมาเช่นนี้ได้แล้ว ต้องรีบไปโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุดค่ะ”
“คุณหมอเกา ทักษะทางการแพทย์ของเสี่ยวฉินดีมาก เขาจะต้องสามารถรักษาถังถังได้อย่างแน่นอน” หลินจื่อเยวียนพูดอธิบาย
ในเวลานี้ฉินห้าวตงได้วางถังถังลงบนโซฟาในห้องโถงใหญ่ จากนั้นนำกระเป๋าเข็มออกมา
การฝึกตนในตอนนี้ของเขายังฟื้นฟูขึ้นมาไม่มาก ถ้าเข้าสู่ขอบเขตก่งจีเมื่อไร เขาจะสามารถใช้วิธีอะไรก็ได้ในการขับชี่พิฆาตออกมาจากร่างกายของหนูน้อย แต่ตอนนี้เขาจำเป็นต้องใช้วิธีฝังเข็มไปก่อน
“อะไรนะ? ที่แท้เธอก็เป็นแพทย์แผนจีนเองเหรอ?” พอเห็นฉินห้าวตงหยิบกระเป๋าเข็มออกมา เกาเยี่ยนรีบพุ่งเข้าไปกั้นระหว่างเขากับถังถัง แล้วหันไปพูดกับหลินจื่อเยวียนและหลินโม่โม่ว่า “คุณหลิน คุณหนูหลินคะ แพทย์แผนจีนเป็นสิ่งหลอกลวง พวกคุณอย่าไปเชื่อเด็ดขาดนะคะ ถ้าหากปล่อยให้เขาจัดการแบบนี้จะต้องทำร้ายถังถัง แน่นอนค่ะ”
ฉินห้าวตงมีสีหน้าเงียบขรึม ในเมื่อผู้หญิงคนนี้ยังไม่ยอมหยุด เขาจึงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “คุณไม่มีสิทธิ์มาสงสัยในการแพทย์แผนจีน รีบหลีกทางให้ผมเดี๋ยวนี้!”
หลินโม่โม่เดินเข้าไปพูด “พี่เกา วางใจเถอะค่ะ ทักษะทางการแพทย์ของคุณหมอฉินดีมาก”
“คุณหนูหลินคะ หวังว่าคุณจะเคารพวิทยาศาสตร์ อย่าปล่อยให้ความรู้สึกมาบดบังดวงตา ถังถังยังเล็ก คุณไม่สามารถทำร้ายเธอได้เพราะปัจจัยทางอารมณ์ส่วนตัวของคุณ”
ในความคิดของเธอ ฉินห้าวตงคือหนุ่มเอ๊าะที่หลินโม่โม่พึ่งจะรู้จัก สาเหตุที่หลินโม่โม่เชื่อคนนี้หมดใจเป็นเพราะมีอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ไม่ใช่เป็นเพราะทักษะทางการแพทย์ของฉินห้าวตงดีเลิศเลอขนาดนั้น
ที่บริษัทหลินโม่โม่เป็นประธานกรรมการที่เผด็จการและหนักแน่นมาก ในเวลานี้กลับถูกตั้งคำถามโดยหมอประจำตระกูลที่ต่ำต้อยคนหนึ่ง สีหน้าของเธอจึงเงียบขรึมขึ้น “คุณหมอเกา สิทธิ์ในการเลือกว่าใครจะมารักษาถังถังเป็นของฉัน! เชิญคุณหลีกทางด้วย!”
“ไม่ได้ค่ะ ฉันคือหมอประจำตระกูล ความรับผิดชอบต่อผู้ป่วยเป็นหน้าที่ของฉัน ถ้าฉันยังอยู่ ฉันจะไม่ยอมให้เขาแตะต้องถังถังเป็นอันขาด นอกเสียจากคุณจะไล่ฉันออก!”
เกาเยี่ยนเป็นหมอประจำตระกูลในตระกูลหลินมานานถึงสามปีกว่า โดยปกติในตระกูลหลินไม่ว่าจะเป็นพ่อหรือลูกสาวต่างให้ความเคารพเธอมาก ดังนั้นเธอจึงติดนิสัยจนทำให้เธอเริ่มหยิ่งทะนง
เธอนึกว่าระหว่างเธอกับฉินห้าวตง หลินโม่โม่จะต้องเลือกเธออย่างแน่นอน เพราะเธอจบปริญญาเอกทางด้านแพทยศาสตร์จากสหรัฐอเมริกา ไม่ว่าจะเป็นวุฒิการศึกษาหรือว่าทักษะทางการแพทย์ต่างก็เหนือชั้นกว่าเขา
“งั้นได้ ตอนนี้คุณถูกไล่ออกแล้ว!” หลินโม่โม่พูดเสียงเข้ม
“อะ......อะไรนะ?”
เกาเยี่ยนพึ่งจะตระหนักได้ว่าตัวเธอเองทำเรื่องที่โง่เขลามาก เธอจึงรีบมองไปยังหลินจื่อเยวียน หวังว่าเธอจะได้รับโอกาสอีกครั้งจากหลินจื่อเยวียน
หลินจื่อเยวียนพูดเสียงต่ำ “คุณหมอเกา คุณอยู่ในตระกูลพวกเรามานานขนาดนี้แล้ว ฉันจะให้โอกาสคุณอีกครั้ง จะหลีกทางให้หรือจะออกไปจากที่นี่”
ถึงแม้ว่าเกาเยี่ยนจะจบปริญญาเอกกลับมาจากสหรัฐอเมริกา แต่ได้ทำงานกับเถ้าแก่ใหญ่ที่ใจกว้างอย่างตระกูลหลินเช่นนี้เป็นโอกาสที่หาได้ยากมาก ระหว่างปากท้องและหน้าตา เธอย่อมเลือกสิ่งแรกอยู่แล้ว ความเย่อหยิ่งเมื่อกี้ถูกกวาดต้อนจนหายไปหมด เธอยอมหลีกทางให้เขาอย่างเงียบๆ
ฉินห้าวตงมาที่ด้านข้างของแม่หนูน้อย ถังถังเห็นเข็มเงินในมือของเขาจึงพูดขึ้นด้วยความกลัว “คุณอาหมอเทวดาคะ คุณอาจะฝังเข็มให้ถังถังใช่ไหม?”
“ใช่แล้ว แค่ฝังเข็มไม่กี่เล่ม อาการป่วยของถังถังก็จะหายแล้วนะ!”
“คุณอาหมอเทวดาคะ คุณอาฝังเข็มเจ็บไหม?”
“หนูพูดเองนี่นาว่าอาคือหมอเทวดา แน่นอนว่าไม่เจ็บเหรอก มีแค่หมอโง่เง่าเท่านั้นแหละที่ฝังเข็มเจ็บ!”
“งั้นได้ค่ะ หนูจะหลับตา ถ้าไม่มองหนูก็ไม่เจ็บแล้ว”
ถังถังพูดจบก็หลับตาอย่างว่าง่ายแล้วถามต่อ “คุณอาหมอเทวดาคะ ฝังเข็มต้องใช้เวลานานเท่าไรคะ?”
“แป๊ปเดียวเอง หนูร้องเพลงให้อาฟังสักเพลงสิ พอหนูร้องจบก็เสร็จแล้ว!”
ขณะที่ฉินห้าวตงพูด เขาเอาเข็มจำนวนสิบกว่าเล่มในมือของเขาฝังไปตามจุดฝังเข็มของถังถังตั้งแต่หัวไปจนถึงเท้าอย่างรวดเร็ว
ทักษะการฝังเข็มของเขาอยู่ในระดับที่ชำนาญมาก ภายใต้การบำรุงของสัจปราณแห่งพงไพรทำให้แม่หนูน้อยไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดเลย เธอหลับตาลงแล้วเริ่มร้องเพลง
“กระต่ายน้อยเด็กดี......รีบเปิดประตู......”
ชี่พิฆาตในร่างกายของถังถังมีไม่มาก จึงง่ายต่อการขับออกมา ใช้เวลาแค่สองถึงสามนาทีก็ถูกฉินห้าวตงขับออกมาจนหมดเกลี้ยง
ตอนที่เขาดึงเข็มออกมา แม่หนูน้อยยังไม่ทันร้องเพลงจบเลย
“เสร็จแล้วนะถังถัง ไม่ต้องร้องเพลงแล้ว ฝังเข็มเสร็จแล้ว”
ฉินห้าวตงบีบแก้มอ้วนๆ ของแม่หนูน้อยเบาๆ
“จริงเหรอคะ ไม่เจ็บสักนิดเลยค่ะ!”
ถังถังตื่นเต้นดีใจกระโดดโลดเต้นอยู่บนโซฟา สองสามนาทีต่อมาสีหน้าของเธอดูมีเลือดฝาดมากขึ้น เธอดูเหมือนได้ชาร์ตพลังให้แก่ร่างกายเธอเอง ฟื้นฟูพลังความสดใสในก่อนหน้านี้
หลินจื่อเยวียนเดินเข้าไปแตะหน้าผากของแม่หนูน้อย แล้วพูดขึ้นด้วยความประหลาดใจว่า “ตัวไม่ร้อนแล้ว ถังถังตัวไม่ร้อนแล้ว!”
ถึงแม้จะรู้ว่าทักษะทางการแพทย์ของฉินห้าวตงนั้นวิเศษ แต่สามารถรักษาถังถังหายได้รวดเร็วเช่นนี้ มันไกลเกินกว่าความคาดหมายของเขาไปมาก ต้องรู้ว่าเมื่อกี้แม่หนูน้อยตอนอยู่ในอ้อมแขนของเขาตัวร้อนจี๋จนน่ากลัว
“คุณอาหมอเทวดา คุณอาเก่งจังเลย แป๊ปเดียวก็รักษาถังถังหายแล้ว!” แม่หนูน้อยกระโดดโลดเต้นอยู่บนโซฟาอย่างตื่นเต้น
“แน่นอนสิ หนูพูดแล้วนี่นาว่าอาคือคุณหมอเทวดา” ฉินห้าวตงพูดด้วยรอยยิ้ม
“คุณอาหมอเทวดาคะ ต่อไปนี้ถ้าถังถังป่วยจะให้คุณอารักษาคนเดียว ไม่ให้ป้าเการักษาแล้ว เธอฉีดยาให้ถังถังทีไรเจ็บทุกทีเลยค่ะ ที่จริงถังถังแทบจะทนไม่ไหวเลย!”
เกาเยี่ยนที่อยู่ด้านข้างมองดูด้วยอาการตกตะลึงตาค้าง พอฟังคำพูดของถังถังแล้วสติของเธอก็กลับมาในทันที จึงพูดขึ้นว่า “เป็นไปไม่ได้ จะต้องเป็นเพราะยาที่ฉันให้ถังถังกินเมื่อกี้พึ่งจะออกฤทธิ์แน่เลย แพทย์แผนจีนคือสิ่งหลอกลวง มีผลลัพธ์เช่นนี้ไม่ได้เหรอก”
ฉินห้าวตงหันมา เหลือบมองไปที่เกาเยี่ยนแล้วพูดขึ้นว่า “คุณเคยเรียนแพทย์แผนจีนเหรอ?”
“ฉันเรียนจบปริญญาเอกทางการแพทย์มาจากสหรัฐอเมริกา จะไปเรียนพวกของหลอกลวงแบบนั้นได้ยังไง!” เกาเยี่ยนพูดด้วยสีหน้าดูถูก
“งั้นคุณเข้าใจแพทย์แผนจีนไหม?”
“ทำไมฉันต้องไปเข้าใจของแบบนั้นด้วย?”
ฉินห้าวตงเดินไปข้างหน้าสองก้าว จ้องไปที่เกาเยี่ยนแล้วพูดขึ้นว่า “สมองคุณมีปัญหาหรือไง? ในเมื่อไม่เคยเรียนแพทย์แผนจีนมาก่อน แถมยังไม่เข้าใจแพทย์แผนจีนอีก ขนาดแพทย์แผนจีนคืออะไรยังไม่รู้จักเลย ทำไมคุณถึงปากดีมาบอกว่าแพทย์แผนจีนเป็นสิ่งหลอกลวง?”
“เอ่อ......อาจารย์บอกฉันมานี่นา เขาบอกว่าแพทย์แผนจีนไม่ใช่วิทยาศาสตร์ เป็นแต่สิ่งที่พวกชนชั้นศักดินาเชื่อในโชคลางเท่านั้น มันไม่สามารถรักษาอาการป่วยได้!”
“คุณบอกว่าแพทย์แผนจีนรักษาคนไม่ได้ งั้นถังถังทำไมถึงหายป่วยล่ะ?” ฉินห้าวตงพูดอย่างเย็นชา
เวลานี้ในใจของเขาเริ่มปะทุไฟโกรธ คนที่ไม่รู้จักแพทย์แผนจีนพวกนี้เป็นใครมาจากไหน ทำไมชอบทำเป็นปากดีเที่ยวว่าแพทย์แผนจีนไม่ดีอย่างนั้นไม่ดีอย่างนี้ วิจารณ์แพทย์แผนจีนอย่างไม่เป็นธรรม
“ฉันพูดไปแล้วว่าถังถังหายดีเพราะฉันแน่นอน ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเธอสักนิด มีแค่การแพทย์ตะวันตกเท่านั้นที่เป็นหนทางที่ถูกต้อง การแพทย์ตะวันตกเป็นอะไรที่วิทยาศาสตร์ที่สุดแล้ว”
ฉินห้าวตงหัวเราะอย่างเยือกเย็นแล้วพูดขึ้นว่า “ในเมื่อการแพทย์ตะวันตกเป็นวิทยาศาสตร์ขนาดนั้น รักษาโรคได้ดีขนาดนั้น งั้นทำไมมันไม่รักษากลิ่นปากของคุณให้หายดีไปด้วยเลยล่ะ?”
จบตอน