ROSE : 20 คำขอ
อาวุโสซือขมวดคิ้วเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจ
แน่นอนว่าเย่ชิงถางย่อมรู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างมู่ซูและตระกูลซือในชีวิตก่อนของนางในยามที่ตระกูลซือถูกเย่โย่วทำลายจนย่อยยับ มู่ซูได้พยายามล้างแค้นให้กับ ตระกูลซือหากอาจารย์ของเย่โย่วมาไม่ทันเวลา นางอาจถูกมู่ซูสังหารไปแล้วก็เป็นได้
มู่ซูมีทั้งพลังและอำนาจอยู่ในระดับสูง เขาคือเป้าหมายที่แท้จริงของเย่ชิงถางมีเพียงบุคคลอันทรงพลังเช่น มู่ซูเท่านั้นที่สามารถช่วยให้นางเข้าร่วมสำนักได้!
และเมื่อนางได้เข้าร่วมสำนักนั่นย่อมหมายความว่านางสามารถจัดการกับเย่โย่ว ได้!
“ขอเวลาข้าสักพักแล้วกัน ข้าต้องนำเรื่องนี้ไปปรึกษาท่านมู่ซูก่อน” อาวุโสซือกล่าวอย่างลังเลใจ เขาไม่สามารถตัดสินใจเรื่องนี้ได้ด้วยตนเอง
“ข้ารอได้” เย่ชิงถางกล่าว นางเชื่อว่าตระกูลซือสามารถพูดจาหว่านล้อมมู่ซูเพื่อให้เห็นแก่ประโยชน์ของซือไป๋ได้
อาวุโสซือพยักหน้าเล็กน้อยและกล่าวว่า “ข้าจะนำคำพูดของเจ้าไปบอกกล่าวกับ ท่านมู่ซูแต่ข้าไม่อาจรับรองได้ว่าเขาจะยอมมาพบเจ้าหรือไม่” อาวุโสซือกล่าวเสริมอีกครั้ง “ข้าจะพยายามอย่างเต็มที่”
“ข้าต้องขอขอบคุณอาวุโสซือไว้ล่วงหน้า!” เย่ชิงถางกล่าวตอบ
“สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นหน้าที่ที่ข้าต้องทำเจ้าช่วยชีวิตหลานชายข้าและแน่นอนว่า ตระกูลซือต้องชดใช้หนี้บุญคุณเจ้า” อาวุโสซือกล่าว
เย่ชิงถางยิ้ม นางรู้จักตระกูลซือเป็นอย่างดีมิเช่นนั้นแล้วนางคงไม่กล้ามาที่นี่เพียงลำพัง
…
แม้ว่านางจะไม่สามารถหาวัตถุดิบทั้งหมดที่จะทำให้ซือไป๋มีอายุยืนยาวนับร้อยปีได้ในเวลาอันสั้นแต่สูตรยาทั้งสองหน้ากระดาษที่เย่ชิงถางมอบให้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ทุกคนในตระกูลซือโล่งใจขึ้น
หมอเทวดาซูจึงใช้โอกาสนี้ในการหารือกับนาง แพทย์ผู้นี้ดูเหมือนพร้อมจะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆอยู่เสมอ
เมื่อเห็นว่าตนเองบรรลุจุดประสงค์แล้วเย่ชิงถางจึงลุกขึ้นยืนและกล่าวว่า “นี่ก็ดึกมากแล้ว ข้าคงต้องขอตัวกลับก่อน”
อาวุโสซือพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะสั่งให้สาวใช้ออกไปส่งเย่ชิงถาง
ขณะที่มองตามแผ่นหลังของเย่ชิงถาง อาวุโสซือก็ได้ครุ่นคิดอยู่ในใจ
เหตุใดคุณหนูแห่งตระกูลเย่จึงได้แตกต่างจากข่าวลือมากถึงเพียงนี้? ทั้วความกล้าหาญและความเยือกเย็นที่หาได้ยากในคนหมู่มากที่อายุเท่าๆกับนาง เมื่อเขาหันไปมองหลานชายของตนเอง เขาก็เห็นชายหนุ่มนั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ พร้อมกับยกมือขึ้นท้าวคาง และมองกลับมาที่เขาด้วยรอยยิ้มจางๆ
“หากข้าจำไม่ผิด ท่านปู่เคยกล่าวมาตลอดว่าอยากได้หลานสาวใช่หรือไม่?”
ทายาทของตระกูลซือในรุ่นนี้นั้นมีผู้ชายเพียงสามคนเท่านั้น
อาวุโสซือขมวดคิ้วแน่นและกล่าวว่า “อย่ามาพูดเรื่องไร้สาระ!”
ซือไป๋หัวเราะเบาๆและหลุบตาลงขณะที่ภาพของเย่ชิงถางปรากฏขึ้นในใจของเขา
เย่ชิงถาง…น่าสนใจจริงๆ
…
หลังออกมาจากคฤหาสน์ตระกูลซือ เย่ชิงถางจึงรีบมุ่งหน้ากลับไปยังตระกูลเย่ โดยเร็วเมื่อเห็นว่าบุตรสาวกลับมาท่าทางของเย่หลิงจึงเต็มไปด้วยความใคร่รู้แต่ถึงกระนั้นเขาก็รักษาท่าทีสงบและไม่เอ่ยถามสิ่งใด
เย่ชิงถางตรงกลับไปที่ห้องนอนเพื่อฝึกพละกำลัง นางได้รับโอกาสครั้งที่สองมาแล้ว ดังนั้นนางจึงต้องใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ในการพัฒนารากเหง้าวิญญาณของตนเอง
ความมืดเริ่มคืบคลานเข้ามาหลังจากฝึกฝนรากเหง้าวิญญาณอยู่ครู่ใหญ่ เย่ชิงถาง จึงเข้านอนอย่างรวดเร็วอย่างไรก็ตาม นางหลับสนิทเสียจนไม่ทันสังเกตเห็นไอพลังสีดำที่พุ่งออกมาจากจิตเทพปีศาจพลังที่ช่วยให้เย่ชิงถางได้รากเหง้าวิญญาณกลับคืนมาหลั่งไหลออกมาจากหัวใจของนางก่อนจะปกคลุมไปทั่วร่างของนาง
กลุ่มไอพลังสีดำที่ออกมาจากจิตเทพปีศาจค่อยๆรวมเข้าด้วยกันเป็นลูกบอลขนาดเล็กอยู่เหนือร่างเย่ชิงถางและค่อยๆทิ้งตัวลงบนหน้าอกของนางด้วยความอ่อนโยน
ภายใต้แสงจันทร์ยามค่ำคืน ปรากฏร่างของชายสองคนอยู่หน้าประตูคฤหาสน์ ตระกูลเย่
มู่ซูมองคฤหาสน์ตระกูลเย่ที่อยู่ตรงหน้าครู่หนึ่งก่อนจะหันไปมองชายหนุ่มรูปงามและเย็นชาที่ยืนอยู่ข้างๆเขา.....
ติดตามตอนต่อไป........