ROSE : 19 สิ่งตอบแทน !
อาวุโสซือนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง “ข้าได้ยินมาว่าเย่โย่วมีรากเหง้าวิญญาณระดับเลิศภพ”
ข่าวที่ว่าเย่โย่วถูกคัดเลือกให้เข้าร่วมกับสำนักอวิ๋นเซี่ยวนั้นแพร่กระจายไปทั่ว เมืองหลินยิ่งไปกว่านั้น ผู้ที่ปล่อยข่าวลือว่าเย่โย่วมีรากเหง้าวิญญาณระดับเลิศภพก็คือ อาวุโสหนึ่ง
จู่ๆนางก็หัวเราะออกมาและกล่าวขึ้นว่า “เดิมทีแล้ว รากเหง้าวิญญาณนั้นเป็นของข้า”
อาวุโสซือตกตะลึงไปชั่วครู่หนึ่งรากเหง้าวิญญาณนั้นเป็นของเย่ชิงถางงั้นหรือ?
นางเลิกเสื้อขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้เห็นบาดแผลบนหน้าท้องของตนแม้ว่าจะมีขนาดเล็กเพียงแค่สองนิ้วมือแต่รอยแผลเป็นอันน่ากลัวนั้นกลับปรากฏชัดเจนอยู่บนผิวขาวเนียนของนาง
“เป็นเย่โย่วที่ควักหน้าท้องของข้าและกระชากรากเหง้าวิญญาณออกไปใส่ไว้ในร่างของนางเองเรื่องราวทั้งหมดนี้ล้วนเป็นจุดประสงค์ของอาวุโสหนึ่งเพื่อให้หลานสาวของเขาได้ครอบครองรากเหง้าวิญญาณระดับเลิศภพ เขาถึงกับกล้าทำร้ายข้าโดยไม่ลังเล เพื่อให้ได้ครอบครองตำแหน่งผู้นำตระกูล เหตุใดเขาต้องปล่อยให้ขวางหนามเช่นนี้อยู่ขวางทางเขาด้วยเล่า?” นางดึงเสื้อลงและกล่าวอย่างเฉยเมยราวกับว่านางไม่เคยประสบกับเหตุการณ์อันโหดร้ายเช่นนี้มาก่อน
เหตุการณ์นี้ทำให้ทุกคนในห้องโถงตกตะลึง
คว้านท้องเพื่อแย่งชิงรากเหง้าวิญญาณ!
ช่างโหดเหี้ยมยิ่งนัก!
รากเหง้าวิญญาณคือแก่นแท้ความสามารถของคนผู้นั้น มีความสำคัญเช่นเดียวกับแหล่งพลังงงานของพวกเขาการแย่งชิงรากเหง้าวิญญาณของผู้อื่นไปใช้เพื่อประโยชน์ของตนเองไม่เพียงแต่น่ารังเกียจเท่านั้นแต่ยังนับว่าเป็นการกระทำอันชั่วช้าด้วย
ใครจะไปคิดว่าการกระทำเช่นนี้จะเกิดขึ้นในตระกูลเย่?
อาวุโสซือสูดลมหายใจเข้าอย่างพยายามตั้งสติ ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักถึงเหตุผลที่ เย่ชิงถางมาถึงตระกูลซือได้ทั้งหมดก็เพื่อหาทางออกให้กับนางและบิดา
เมื่อได้รู้ว่าผู้ที่ควบคุมตระกูลเย่อยู่ในขณะนี้คืออาวุโสหนึ่งดูเหมือนว่าบิดาและบุตรสาวทั้งคู่นี้จะตกอยู่ในอันตรายในอีกไม่กี่วันข้างหน้าเป็นแน่…
นางมองตรงไปยังอาวุโสซือและกล่าวว่า “สูตรยาทั้งสองหน้ากระดาษนี้สามารถช่วยชีวิตคุณชายสามได้และเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความจริงใจของข้า ไม่เพียงแต่ทำให้เขาหายจากความเจ็บปวดเท่านั้นแต่ข้ายังสามารถทำให้เขามีสุขภาพที่ดีดังเช่นคนปกติทั่วไปและท่านจงวางใจได้ว่าเขาจะมีอายุยืนยาวนับร้อยปีเลยทีเดียว”
คำพูดของนางทำให้อาวุโสซือตื้นตันใจเป็นอย่างมาก เขาพยายามเป็นอย่างมากในการหาวิธีทำให้ซือไป๋มีชีวิตได้ยืนยาว
“เจ้าต้องการให้ตระกูลซือทำสิ่งใดให้แก่เจ้าเพื่อเป็นการตอบแทน? หากเจ้าต้องการให้พวกเราปกป้องเจ้า ข้าเกรงว่าคงเป็นไปไม่ได้หากพวกเราสามารถต่อกรกับ ตระกูลเย่ได้ ข้าคงทำลายตระกูลเจ้าจนสิ้นซากไปนานแล้ว” อาวุโสซือกล่าว
เย่ชิงถางหัวเราะเบาๆ “ข้าสามารถยืนหยัดด้วยตนเองและหาวิธีล้างแค้นได้ ข้าเพียงแค่ต้องการให้ตระกูลซือช่วยสนับสนุนข้าเพียงเล็กน้อย”
“เจ้าจะขอสิ่งใดก็ได้ตราบใดที่มันไม่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้ภายในตระกูลเย่” อาวุโสซือให้สัญญา
แววตาของเย่ชิงถางเต็มไปด้วยปิติยินดี สิ่งที่นางต้องการก็คือคำสัญญานี้
“ข้าหวังว่าอาวุโสซือจะแนะนำข้าให้คนผู้หนึ่งรู้จัก”
“ผู้ใดกัน?”
“มู่ซู”
ท่าทางของอาวุโสซือเปลี่ยนไปในทันที เขามองเย่ชิงถางด้วยความประหลาดใจ
มู่ซูเป็นขุนนางประจำเมืองประกายดาว ชื่อของเขาเป็นที่รู้จักกันดีทั่วทั้งเมืองอีกทั้งทักษะความสามารถของเขาล้วนยอดเยี่ยม เขาเป็นบุคคลที่ทรงพลังและมีความสัมพันธ์อันใกล้ชิดกับผู้นำของหลายสำนักแม้แต่องค์จักรพรรดิก็ยังต้องก้มศีรษะให้ทุกครั้งที่ได้เห็นมู่ซู
ตระกูลซือและมู่ซูนั้นมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันอย่างไรก็ตามมีเพียงไม่กี่คนใน ตระกูลซือเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้แล้วเย่ชิงถางรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร?
ติดตามตอนต่อไป.............