ROSE : 16 วิธีการกลั่นแกล้ง
คำพูดของเย่ชิงถางทำให้อาวุโสซือขมวดคิ้วเล็กน้อยหากเป็นคนอื่นจากตระกูลเย่ มาที่นี่ในวันนี้ เขาคงสั่งให้เหล่าองครักษ์มาลากกลับออกไปแล้วอย่างไรก็ตามเย่ชิงถาง เป็นคุณหนูแห่งตระกูลเย่และยังเป็นบุตรสาวเพียงคนเดียวของอาวุโสเย่ดังนั้นนางจึงเป็นผู้สืบทอดคนต่อไป....
หลังจากเงียบงันมาเนิ่นนานในที่สุดอาวุโสซือก็กล่าวขึ้น “ข้ายอมให้เจ้ารักษาหลานรักข้าก็ได้ แต่อย่างไรก็ตาม…”
เขาจ้องนางราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ!
“หากเจ้าไม่สามารถอธิบายวิธีการรักษาหลานข้าด้วยปากเปล่าได้ อย่าได้คิดแม้แต่จะก้าวออกไปจากประตูบานนี้!”
ท่าทางของซือไป๋เปลี่ยนไปเล็กน้อยขณะที่เขากำลังจะห้ามท่านปู่ เย่ชิงถางกลับตอบตกลงโดยไร้ซึ่งความลังเล “ย่อมได้”
อาวุโสซือยิ้มเยาะและหันไปหาท่านหมอเทวดาซู “ท่านหมอเทวดาซู นับว่าเป็นเรื่องดียิ่งที่ในวันนี้ท่านอยู่ที่นี่ ได้โปรดช่วยจับตาดูนางด้วย หากมีผู้ใดพยายามทำร้ายหลานข้า…”
ท่านหมอเทวดาซูตอบว่า “อาวุโสซืออย่าได้เป็นกังวล ข้าจะจับตามองเป็นอย่างดี”
อาวุโสซือพยักหน้าอย่างพึงพอใจ จากนั้นเขาจึงหันไปตวัดสายตามองเย่ชิงถาง
“เย่ชิงถาง ข้าจะให้โอกาสเจ้า จงบอกวิธีช่วยหลานรักของข้ามา”
“…”
เย่ชิงถางหันไปมองอาวุโสซือผู้ซึ่งแสดงท่าทางราวกับต้องการสื่อว่า หาก-เจ้า-กล่าว-สิ่ง-ใด-ผิด-เจ้า-ตาย-แน่ นางรู้ว่าซือไป๋เป็นหลานชายคนโปรดของอาวุโสซือแต่นางกลับคิดไม่ถึงว่าอาวุโสซือจะระแวดระวังถึงเพียงนี้แม้ว่าเขาจะสั่งให้ท่านหมอเทวดาซูจับตาดูนางแต่เขากลับไม่เปิดโอกาสให้นางได้ตรวจชีพจรของซือไป๋และต้องการให้นางตอบคำถามของเขาโดยเร็ว
ชายชราผู้นี้เป็นคนเอาแต่ใจอย่างไม่ต้องสงสัย!
“ข้าขอตรวจชีพรจรคุณชายสามได้หรือไม่?” เย่ชิงถางเอ่ยขึ้น
อาวุโสซือหัวเราะเยาะเล็กน้อย “ไม่ได้!”
“เอาล่ะ ตอบคำถามข้ามา”
นางไม่ได้แสดงท่าทีไม่พอใจหรือวิตกกังวลแต่อย่างใด นางเพียงขอให้คนนำกระดาษและพู่กันมาให้นางเขียนสูตรยาเท่านั้น
เมื่อเห็นดังนั้นท่านหมอเทวดาซู จึงส่ายศีรษะเบาๆเห็นได้ชัดว่าอาวุโสซือกำลังพยายามไล่ต้อนเย่ชิงถางให้จนมุมโดยไม่ให้นางตรวจชีพจรของซือไป๋แล้วนางจะหาวิธีการรักษาได้อย่างไร?
ซือไป๋เองก็รู้สึกงุนงงเล็กน้อย
ในทางกลับกันสีหน้าท่าทางของอาวุโสซือในยามนี้นั้นดูราวกับว่าเขาพร้อมที่จะสั่งให้คนไปดึงกระดาษในมือนางออกมาทันทีที่นางเขียนจบจากนั้นเขาจะได้ระบายโทสะกับนางเสียที
เย่ชิงถางเขียนสูตรยาที่มีความยาวถึงสองหน้ากระดาษโดยใช้เวลาไม่นานนัก จากนั้นจึงนำไปมอบให้อาวุโสซือ
อาวุโสซือไม่แม้แต่จะเหลียวมองกระดาษในมือ เขาหัวเราะอย่างเย็นชา “เย่ชิงถาง เจ้าไม่รู้อาการของหลานข้าด้วยซ้ำแต่กลับกล้าเขียนสูตรยานี้ขึ้นมา ข้าคิดว่าเจ้าคงไม่ได้มาที่นี่เพื่อช่วยชีวิตเขาเป็นแน่ แต่น่าจะมาเพื่อพรากชีวิตเขาไปแทน!”
เย่ชิงถางมองอาวุโสซือด้วยความรู้สึกที่ไม่รู้ว่าควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ประการแรกเขาไม่ยอมให้นางตรวจชีพจรของซือไป๋และในยามนี้เขากลับกล่าวว่านางเขียนสูตรยามั่วๆขึ้นมา
นางรู้ดีว่าด้วยความเกลียดชังที่ชายชรามีต่อตระกูลเย่ เขาย่อมหาวิธีกลั่นแกล้งนางอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม…
“ในเมื่อวันนี้ ท่านหมอเทวดาซูอยู่ที่นี่ เหตุใดอาวุโสซือไม่ให้เขาตรวจสอบดูก่อนจะสรุปเล่า?” เย่ชิงถางเผยรอยยิ้มแววตาของนางเต็มไปด้วยความมั่นใจ
“ได้ ข้าจะปล่อยให้เจ้าดิ้นรนต่อไปอีกสักพัก” อาวุโสซือหัวเราะเยาะ “ข้าอยากรู้นักว่าเจ้าจะดิ้นรนเอาตัวรอดไปได้อีกนานเท่าใด!”
จากนั้นเขาจึงส่งสูตรยาให้ท่านหมอเทวดาซูโดยไม่ละสายตาไปจากนางแม้แต่เสี้ยววินาที
เย่ชิงถางได้แต่ยักไหล่เบาๆอย่างไม่ใส่ใจมากนัก
ท่านหมอเทวดาซูไล่อ่านทุกตัวอักษรในกระดาษของนางอย่างระมัดระวัง ความกังวลเล็กน้อยปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นความตกใจในเวลาต่อมา
“สูตรยานี้…สูตรยานี้…” ทันใดนั้นท่านหมอเทวดาซูพลันอุทานออกมา
เมื่อเห็นดังนั้นอาวุโสซือจึงทุบโต๊ะเสียงดังและลุกขึ้นยืน เขายกมือชี้หน้าเย่ชิงถาง และตะโกนว่า “เย่ชิงถาง เจ้ามีสิ่งใดจะกล่าวอีกหรือไม่!”
ติดตามตอนต่อไป.........