px

เรื่อง : Star Rank Hunter
Chapter 22: แน่ใจหรือว่านี่เป็นสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ไม่ใช่เครื่องบิน?


ที่ฐานการฝึกอบรมมหาวิทยาลัยเซเว่นไลท์ ภายในสำนักงานนั้นมีหัวหน้าอาคารสำนักงานฝึกอบรมเป็นชายวัยกลางคน และชายหนุ่มอายุสิบเจ็ดหรือสิบแปดปีที่กำลังพูดคุยกันอยู่

“นี่ก็เป็นเวลาสองวันแล้ว ประสบการณ์ในดาวเคราะห์เซเว่นไลท์ของคุณเป็นอย่างไรบ้าง.. ไนท์?” ชายวัยกลางคนถามชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับเขา ใบหน้าของเขาแสดงออกถึงรอยยิ้มของผู้สูงอายุที่คอยเป็นห่วงเป็นใยเด็กๆ ที่เขาดูแลอยู่ และแม้ว่าเขาจะนั่งอยู่เพียงลำพัง แต่การเคลื่อนไหวทุกอิริยาบถของเขานั้นบ่งบอกถึงคุณสมบัติของเขาในฐานะทหาร

ร่องรอยของความใจร้อนปรากฏขึ้นบนใบหน้าของชายหนุ่มที่ชื่อไนท์ แต่เนื่องจากเขากำลังเผชิญหน้ากับผู้อาวุโสเพราะฉะนั้นเขาจึงพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ดูหยาบคายนักว่า “หนึ่งคำเลยครับ..น่าเบื่อ!!”

“ดาวเคราะห์เซเว่นไลท์ไม่ใช่สถาบันทางการทหารเลย ไม่มีทางที่พวกเขาจะให้นักศึกษาได้สัมผัสกับอาวุธปืน และประกอบกับไม่มีอาวุธยุทโธปกรณ์ขนาดใหญ่ไม่มากพอจึงไม่มีการสู้รบแบบจำลองใดๆ มีแต่การทำแผนการฝึกอบรมแบบออนไลน์ของเซเว่นไลท์ แต่นั่นก็ถือเป็นเรื่องดีทีเดียวนะ” ชายวัยกลางคนได้แสดงความคิดเห็นออกมา

“แต่ท้ายที่สุดแล้วนั่นมันไม่ใช่เรื่องจริง มีความแตกต่างระหว่างการหันหน้าไปทางปืนจริงกับปืนจำลองนะ ประกอบกับคนที่นี่นั่นต้องอยู่ภายใต้กฎหมายที่เข้มงวด!” ใบหน้าของไนท์นั้นเต็มไปด้วยความรังเกียจ เขาต้องต่อสู้ไม่รู้กี่รอบกับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาในช่วงสองวันที่ผ่านมา และถึงแม้ว่าบางคนก็สมควรที่จะถูกลงโทษ และนั่นคือเหตุการณ์ทั้งหมดที่เขาผ่านมา ไม่มีใครให้ความสนใจเขาจริงๆ ถ้าเขาต้องการที่จะปรับปรุงความสามารถในการสู้รบ เขาก็สามารถออกจากส่วนของการฝึกอบรมได้ บางคนในแผนกตำรวจและการฝึกอบรมถูกย้ายจากออกจากกองทัพกาแล็คซี แตกต่างจากคนในสถาบันการศึกษาที่มีเจตนาในการฆ่าในแบบของทหารที่อยู่ในการต่อสู้ นี่มันทำให้ไนท์ตื่นเต้นมากจริงๆ

“ที่นี่ไม่ใช่โรงเรียนการทหารเลย...” ชายผู้นั้นก็หมดหนทางเช่นกัน เขาจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเขาทำแบบนี้ซ้ำไปมาในช่วงสองวันที่ผ่านมานี้กี่ครั้งแล้ว “แล้วคุณจะขอโทษคุณพ่อของคุณ และใช้โอกาสให้เขาส่งคุณไปที่สถานศึกษาทางทหารของ เขตการปกครองC รึเปล่า? คุณยังไม่ได้ลงทะเบียนที่นี่เลยนิ”

“ไม่มีทางเป็นไปได้! ผมยอมที่จะต้องเบื่อไปจนกว่าจะสำเร็จการศึกษา ดีกว่าที่จะยอมขอโทษเขา! ผมไม่ผิดเลยด้วยซ้ำ! คนชั่วร้ายพวกนั้นควรโดนแล้ว! พวกเขาสมควรที่จะโดนเตะก้นสักครั้งด้วยซ้ำ!” ไนท์กำลังเดือด ขณะที่พูดถึงเรื่องพวกนี้ บรรยากาศโดนรอบเหมือนมีความมาคุมาจากร่างของไนท์ นี่คงไม่ใช่เหตุการณ์เล็ก ๆ แน่ ไนท์ตบโต๊ะเสียงดัง เจ้าคนนิสัยเสีย? ครั้งต่อไปที่ได้เจอกันเห็นทีเหตุการณ์คงจะไม่ธรรมดาแน่

ชายวัยกลางคนยิ้มอ่อนให้ไนท์ คู่พ่อลูกนี้ช่างมีความคล้ายคลึงกันเสียจริงๆ ช่วงที่ทั้งคู่อารมณ์ไม่ดีนั้นมันเป็นยากที่จะเปลี่ยนความคิดของพวกเขาจริงๆ ขณะที่ชายกลางคนกำลังจะพูดอะไรบางอย่างออกมา เสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น แล้วเขาก็สั่งให้ไนท์รอเขาสักครู่ เขามองเบอร์โทรศัพท์เป็นตัวเลขที่เขาไม่รู้จักและนี่ก็ไม่ใช่การสื่อสารด้วยวิดีโอด้วย มันเป็นเพียงแค่การโทรศัพท์ด้วยเสียงธรรมดา เขารู้สึกสงสัยจริงๆ ว่าเป็นใคร โอนีลหยิบโทรศัพท์ของเขาขึ้นมาและพูดด้วยน้ำเสียงเข้มๆ ของหัวหน้าแผนกฝึกอบรม “นี่..ฮูโอ นีล”

“อา, นีลตัวน้อยๆ...” ช่วงที่โอนีลได้ยินเสียง เขาก็ลุกพรวดขึ้นมาแทบจะในทันทีจากที่นั่งของตัวเองโดยกดเท้าวางเป็นท่ามาตรฐานของทหาร และตอบด้วยเสียงอันทรงพลังว่า “ครับท่าน!”

เมื่อได้เห็นภาพเช่นนั้นไนท์เกือบจะตกลงมาจากที่นั่ง เขาเปิดปากอ้าปากค้าง คนที่มีท่าทางอย่างผู้อาวุโสได้หายตัวไปแล้วอย่างสมบูรณ์ นี่มันทำให้ไนท์รู้สึกสนใจขึ้นมามากจริงๆ ว่าคนที่ฮูโอ นีลคุยด้วยนั้นเป็นใคร เขาจึงตั้งใจฟังสิ่งที่ฮูโอ นีลคุยกับปลายสายอย่างจดจ่อ

“ครับท่าน... ครับท่านไม่ต้องเป็นห่วงครับ ผมจะบอกให้กองตำรวจทำหน้าที่ในทันที ... ครับท่านผมทราบครับ ไม่ต้องเป็นห่วงครับ... ครับท่านดูแลตัวเองครับ!”

เมื่อการติดต่อสิ้นสุดลงร่างกายของฮูโอ นีลก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย การแสดงออกของเขานั้นช่างดูขมขื่น ช่างดูแตกต่างจากที่เขาได้พูดคุยกับไนท์ก่อนหน้านี้เสียอีก ทำไมเซอร์มัวร์ถึงได้เปลี่ยนหมายเลขโทรศัพท์ของเขาอีก? จากการที่ได้คุยกับท่าน เซอร์มัวร์เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ของเขาบ่อยขึ้น และบ่อยมากยิ่งขึ้น อาจเป็นเพราะมีแขกผู้มาเยือนเพิ่มขึ้น รวมทั้งนี่อาจเกี่ยวข้องไปถึงนักเรียนใหม่คนนั้นด้วยล่ะมั้ง...

“ลุงฮูโอเกิดอะไรขึ้นเหรอครับ?”

“ไว้ฉันจะบอกนายใจตอนหลังนะ!” ฮูโอ นีลไม่ได้อธิบายอะไรให้ไนท์ฟังมากมาย โดยไม่รอช้าฮูโอ นีลก็หันมาและต่อสายเรียกประชุม แทบไม่ต้องใช้เวลานานเลยสำหรับการติดต่อสื่อสาร ไม่นานปลายสายก็รับ

“ฮะ? ..เกิดอะไรขึ้นทำไมคุณถึงโทรเรียกตัวฉันในเวลานี้นีล? คุณเกิดรู้สึกเบื่อแล้วอยากจะฝึกอะไรบ้างงั้นเหรอ?” ปลายสายพูดล้อเล่นกับฮูโอ นีล

แต่ฮูโอ นีลไม่มีท่าทีที่จะสนใจการล้อเลียนของปลายสายเลยสักนิด เขาพูดขึ้นมาอย่างจริงจังว่า “เจอร์ราร์ด.. ฉันเพิ่งได้รับรายงานเกี่ยวกับการโจรกรรมที่สถานีรถไฟที่รวมรถไฟทุกสายทั่วทั้งดาวเคราะห์ในเขตการค้า มีรถบินสองคันปล้นกระเป๋าเป้สะพายหลังของนักศึกษาที่กำลังรอขึ้นรถไฟไป...”

ในอีกด้านหนึ่งเจอร์ราร์ดซึ่งไม่รู้ว่าจะช่วยยังไง ได้แต่วางมือลงบนหน้าผากของเขา โดยปกติพวกเขาไม่ได้สนใจที่จะดูแลเรื่องเล็กน้อยพวกนี้ ในเมื่อมันเป็นเพียงประเด็นเล็กๆ น้อยๆ ระหว่างนักศึกษา และแทบจะไม่มีอะไรสำคัญเลยทีเดียว นอกจากนี้กระเป๋าเป้สะพายหลังที่ถูกขโมยไปยังแทบจะไม่มีอะไรที่สำคัญเลย ไม่ต้องพูดถึงเด็กที่ร่ำรวยพวกนั้นเคยขับรถบินที่เร่งความเร็วผ่านกองตำรวจไปแต่ก็แทบจะไม่เป็นเรื่องอะไร สิ่งที่ทำให้เจอร์ราร์ดรำคาญก็คือ มันคงจะเป็นเรื่องที่น่ารำคาญอย่างมากหากปรากฏว่าตำรวจกำลังเข้าไปยุ่งในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างลูกหลานของครอบครัวใหญ่ๆ เข้า

“นีล.. งั้นบอกฉันมาสิว่าใครเป็นคนแจ้งมา?”

“เจ้านายเก่าของเรา พ่อของนายพลมัวร์ รองอธิการบดีแห่งเซเว่นไลท์.. เซอร์มัวร์”

ก่อนที่ฮูโอ นีลจะพูดจบลง เจอร์ราร์ดก็ตอบกลับมาด้วยการแสดงความยุติธรรมอย่างเต็มที่ว่า “พวกนั้นกล้าทำอะไรที่เลวร้ายอย่างการโจรกรรมด้วยรถบินขณะกลางวันแสกๆ ได้ยังไง? นี่มันเป็นเรื่องชั่วร้ายอย่างร้ายแรงที่สุด!”

“.....” ฮูโอ นีลถึงกับพูดไม่ออกหลังจากได้ยินประโยคถัดมาของเจอร์ราร์ด

เจอร์ราร์ดหันหน้าไปทางหน้าต่าง และส่งเสียงคำรามเรียกลูกน้องของเขาที่กำลังฝึกซ้อมอยู่ข้างนอกว่า “ทุกนายลุกขึ้น! ระดมพล! ใครช้าจะถูกทิ้งไว้ข้างนอก และวิ่งเปลือยกายไปทั่วทั้งเมือง!” เสร็จแล้วเขาก็หันกลับไปหาฮูโอ นีลว่า “นีล.. บอกเซอร์มัวร์ว่าท่านไม่ต้องเป็นกังวล เพราะเราจะส่งตำรวจทุกนายของเราไปจัดการดูแลเจ้าพวกคนขี้ขลาดน้อยๆ เหล่านั้นทันที!”

หลังจากที่ฮูโอ นีลปิดหูฟังไปแล้ว เขาก็กดปุ่มควบคุมที่อยู่ในมือและป้อนพิกัดไม่กี่ตัวเข้าไป หน้าจอก็ปรากฏภาพไม่กี่ภาพขึ้นมา ซึ่งภาพพวกนี้เป็นภาพจากดาวเทียมที่แสดงพิกัดของรถบินทั้งสองคัน และซิลลินที่กำลังขับสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าตาม โดยภาพได้จับจากด้านบน ด้านข้าง และด้านหน้า ไนท์รู้สึกสนใจอย่างมากจึงค่อยๆ ขยับตัวเข้ามาเพื่อดูภาพใกล้ๆ

ระหว่างเขตการค้ากับเมืองสลีพเพลสซึ่งเป็นโซนบันเทิงนั้นไม่มีใครเป็นเจ้าของที่ดิน ดังนั้นคลื่นสีเขียวของต้นไม้จึงช่วยบดบังยานพาหนะทั้งสาม สีแดง สีเหลือง และสีน้ำเงินได้เป็นอย่างดี ขณะที่พวกเขาวิ่งผ่านแนวป่าที่ไม่มีที่สิ้นสุดนี้

“มีอะไรอยู่ในถุงนี่กัน? ถึงทำให้เจ้าเด็กนั่นไล่ตามพวกเราด้วยสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า มาจนไกลถึงขนาดนี้!” คนที่แต่งตัวแปลกๆ ที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยในรถบินสีเหลืองสดใสโวยวายขึ้นมา

“มันก็มีแค่อาหาร หนังสือพิมพ์ แล้วก็เสื้อผ้า แม้ว่าเสื้อผ้าพวกนี้จะดูมีราคานิดหน่อยก็เถอะ แต่นอกเหนือจากนั้นก็ไม่เห็นมีอะไรที่มีค่าอยู่ในนี้เลยนะ” อีกคนที่นั่งอยู่ในรถบินสีแดงเข้มพูดขึ้น หลังจากค้นกระเป๋าของซิลลินแล้ว

“บ้าเอ้ย!! นี่เด็กนั่นมันไล่ตามพวกเรามาเพียงเพื่อของพวกนี้งั้นเหรอ? มันคงเป็นอีกคนในบรรดาพวกคนหัวสูงทั้งหลาย พระเจ้าคงจะรู้ว่าเจ้าเด็กนี่มันใช้แบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพสูงอยู่!” คนพวกนี้ได้สันนิษฐานว่าเหตุผลที่ทำให้ซิลลินสามารถไล่ตามพวกเขามาได้ไกลถึงขนาดนี้ เนื่องมาจากเขาคงจะใช้แบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพสูงนั่นเอง

“ช่ายยย? ชิ.. ไม่งั้นสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่ไหนมันจะไปไล่ตามรถบินได้กันว่ะ!! แม้มันจะมีแบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพสูง แต่แบตเตอร์รี่ก็ย่อมมีวันหมดได้โว้ย! เรื่องแค่นี้ไอ้เด็กนั่นมันไม่รู้รึไงกัน!”

“ลืมเด็กนั่นไปซะ... เร่งความเร็วให้เร็วขึ้น เด็กนั่นอาจจะมาได้ไกล แต่มันก็ไปได้ไม่มากกว่านี้แล้วล่ะ สกู๊ตเตอร์ของเด็กนั่นทนทานได้ไม่ดีนักหรอกเมื่อเขาใช้แบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพสูงขนาดนี้ นับว่าโชคดีแล้วที่เด็กนั่นไม่ระเบิดจากสกู๊ตเตอร์ของเขาไปซะก่อนน่ะ!”

“ฮ่าๆ ...ฟังดูน่าสนุกจัง ฉันจะรอดูว่าสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าของเจ้าเด็กนั่นมันจะระเบิดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยเมื่อไร!! วู้ฮู้ ~~” แล้วสองคนนั้นก็โห่ร้องยินดีออกมาตลอดทาง

ซิลลินปรับนัยน์ตาของเขาให้แคบลง แล้วเพิ่มพลังใต้ฝ่าเท้า และปรับร่างกายให้เป็นมุมเพื่อที่จะช่วยในการลดการปะทะกับอากาศ ปรากฏเป็นรูปทรงกรวยที่มองไม่เห็นล้อมรอบตัวของซิลลิน มันช่วยให้เขาแหวกอากาศไปได้อย่างรวดเร็ว แม้ว่าเขาจะไม่ได้สวมแว่นไว้ก็ตามแต่ความเร็วขนาดนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรต่อวิสัยทัศน์การมองของซิลลินเลย

เสียงของเท้าของซิลลินยังคงเหยียบสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าให้เร่งต่อไปข้างหน้า สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าทะลุผ่านอากาศอีกครั้งและอีกครั้ง ราวกับว่าซิลลินได้รวมตัวเขาเองเข้ากับสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างสมบูรณ์แล้ว ในตอนนี้ซิลลินเหมือนกับลูกกระสุนสีฟ้าที่กำลังพุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วและความยืดหยุ่นไม่มีผิด

ซิลลินกำลังคำนวณความเร็วของรถบินอีกฝ่าย, แรงผลักดันที่เขาต้องใช้, จำนวนแรงดัน และความต้านทานของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้านี้ไม่สามารถตามทันรถบินสองคันข้างหน้าได้โดยใช้พลังงานและความเร็วสูงสุด นั่นคือเหตุผลที่ซิลลินได้ลดกำลังขับเคลื่อนลงและหันมาใช้กำลังของตัวเองเพื่อผลักสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าไปข้างหน้าแทน

ภายในห้องการฝึกอบรมฮูโอ นีล และไนท์กำลังจ้องไปที่หน้าจอมอนิเตอร์อย่างใจจดใจจ่อ

“เด็กคนนี้ดูค่อนข้างไม่ธรรมดานะ?” ฮูโอ นีลพูดขึ้นมา

“เขาไม่ได้ใช้การขับเคลื่อนอัตโนมัติ แต่เขาควบคุมการเคลื่อนไหวด้วยตัวเอง จากวิธีการที่เขามีความช่ำชองในการหลบอุปสรรคที่ขว้างหน้า คุณจะเห็นได้ว่าเขาสามารถควบคุมจิตใจของตัวเองได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้เพื่อเป็นการสงวนพลังงานทั้งหมดที่มีไว้ เขาจึงไม่ใช้การขับเคลื่อนอัตโนมัติ แต่ควบคุมด้วยตนเอง ถ้าเขาเริ่มวิ่งออกจากสถานีรถไฟในเขตการค้าแล้วสามารถวิ่งมาได้ไกลขนาดนี้โดยไม่หยุดเลยแสดงว่าเขานั้นมีความแข็งแกร่งมากเลยทีเดียว และจากคลื่นอากาศที่เขาสร้างขึ้นหลังจากที่เขาผลักสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าให้พุ่งไปข้างหน้านั้น คุณจะเห็นได้ว่าเด็กหนุ่มคนนี้นั้นค่อนข้างจะแข็งแรงมาก”

ในตอนนี้ดวงตาของไนท์นั้นเต็มไปด้วยไฟแห่งการแข่งขันที่ลุกโชน “เขาเป็นใครกัน?” เด็กหนุ่มที่อยู่ในภาพนั้นเรียกได้ว่าไม่ได้เป็นที่รู้จักเลยสักนิด

ฮูโอ นีลป้อนชุดรหัสผ่าน และพิกัดบนหน้าจอมอนิเตอร์ เมื่อเข้าระบบได้แล้วเขาก็เสิร์ชหาไปยังตำแหน่งของการ์ดเซเว่นไลท์ที่เด็กหนุ่มคนนั้นถืออยู่ ไม่นานนักฮูโอ นีลก็สามารถยืนยันตัวตนของผู้ถือบัตรได้“ซิลลิน ดัวแอส? นี่เด็กคนนี้เขามาจากตระกูลดัวแอสงั้นเหรอ?”

ขณะเดียวกัน รถโดยสารรับส่งที่กำลังบินจากเขตการค้าไปยังเขตบันเทิงที่กำลังอยู่กลางอากาศนั้น นักศึกษาบางคนที่ไม่ได้ทำอะไรก็มองไปยังพฤกษชาติสีเขียวชอุ่มที่ไม่มีที่สิ้นสุดนอกหน้าต่าง ทันใดนั้นดวงตาของนักศึกษาคนหนึ่งก็เปิดกว้างขึ้นและกว้างขึ้น “โอ้ว แมร่งเอ้ย!! นั่นมันคนกำลังขับสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าบิน!!”

หลังจากสิ้นเสียงของนักศึกษาคนนั้น คนที่อยู่ข้างๆ เขาอีกหลายคนก็พากันมองนอกหน้าต่าง แล้วฉากของ สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ากำลังตามไล่ล่ารถบินสองคันอย่างไม่หยุดยั้งก็ปรากฎในดวงตาของพวกเขา ในความเป็นจริงมันเร็วจนเกือบจะตามทันรถบินสองคันได้แล้วต่างหาก

“นายแน่ใจเหรอว่ามันเป็นสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ไม่ใช่เครื่องบินน่ะ?” นักศึกษาคนหนึ่งถามขึ้นมา

นักศึกษาอีกคนเมื่อได้ยินดังนั้นก็โต้ขึ้นมาว่า “เฮ้ย.. ก็เห็นๆ กันอยู่มีเครื่องบินที่ไหนมีรูปร่างเหมือนกับสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ากัน?”

“จริงๆ แล้ว... ฉันคิดว่าพวกเขากำลังโฆษณาสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าอยู่ใช่ไหม?” นักศึกษาอีกคนหนึ่งได้แสดงความคิดเห็นขึ้นมา นักศึกษาอีกคนจึงมองไปรอบๆ แล้วพูดขึ้นว่า “แต่ฉันไม่เห็นกล้องของทีมงานมาถ่ายทำเลยนะ?”

“ถ้ามันเป็นสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าจริงๆ ล่ะก็ ฉันจะไปซื้อมันอย่างแน่นอน แต่ฉันแค่ไม่รู้ว่าเป็นของแบรนด์อะไรน่ะสิ”

“ไม่ต้องกังวล ฉันถ่ายภาพเอาไว้เรียบร้อยแล้ว!”

โดยไม่คำนึงถึงการพูดคุยของผู้คนบนรถโดยสารรับส่ง สิ่งที่ซิลลินต้องการในตอนนี้คือการจัดการเจ้าโจรสองคนนี้เพื่อมาชดใช้ค่าเสียหายให้กับเขา ซึ่งมีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูงมากที่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าของเขาจะใช้งานไม่ได้หลังจากจบงานในครั้งนี้ รถบินทั้งสองคันที่อยู่ข้างหน้าเขายังคงเร่งเครื่องขึ้น ซิลลินจึงได้เพิ่มแรงผลักและความเร็วขึ้นด้วย เสียงจากเท้าของเขาที่ทำให้อากาศเกิดมีเสียงดัง จนได้ยินอย่างชัดเจนไปจนถึงผู้โดยสารภายในรถโดยสารรับส่ง ไม่นานหลังจากนั้น ทั้งสาม สีแดง สีเหลือง และสีน้ำเงินก็หายตัวไปจากสายตาผู้โดยสาร

ท่าจะไม่ดีแล้ว... สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ากำลังจะถึงขีดจำกัดของมัน ซิลลินคิดอย่างรวดเร็วในใจ และวางแผนขั้นตอนต่อไป รวมถึงประมวลอัตราความสำเร็จของเขาไปด้วย

ทันใดนั้น ขณะที่โจรทั้งคู่กำลังคุยกันอยู่ในรถของพวกเขา ก็ได้ยินเสียงระเบิดดังมาจากด้านหลัง

“เฮ้..ระเบิดแล้ว! สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าของเด็กนั่นมันระเบิดแล้ว!”

คนที่แต่งตัวแปลกๆ ในรถสีแดงเข้มรู้สึกดีใจ ในขณะที่เขาเริ่มหันศีรษะไป และเพลิดเพลินไปกับความน่าสังเวชของเด็กหนุ่มข้างหลังเขา แต่หลังจากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงดังขึ้นมาอย่างฉับพลัน ขณะนี้นัยน์ตาของเขากำลังเบลอ และรถบินก็ถูกอัดกระแทกลงไปกับพื้น

ครู่ต่อมา ก็เกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ขณะที่รถบินสีเหลืองสดใสกำลังมุ่งไปข้างหน้ามันก็ถูกเตะขึ้นไปในอากาศและม้วนตัวตกลงไปที่พื้นอย่างแรง

ฮูโอ นีล และไนท์จ้องมองไปที่หน้าจอมอนิเตอร์ภายในสำนักงานกองฝึกอบรมอย่างตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เพิ่งจะเกิดขึ้น...

รีวิวผู้อ่าน