ตอนที่ 21 พี่ชายของฉัน
“ เหตุผลนี้ ช่าง....หลักแหลมเสียจริง ! ”
หวังหยวนอู่ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก เขามองหวังซินเหยาอยู่ “ ซินเหยา ได้ยินว่าพี่หลี่ต้าของนายน่ะ เย็นวันนี้จะลงมือล่ะสิ ”
หวังซินเหยาใบหน้าไม่ยินดีนัก ลูบจมูกแล้วลงจากรถ
นอกจากหลี่ต้าและหวังหยวนอู่แล้ว คนที่เหลือก็แสดงสีหน้าไม่ชอบเหมือนเดินผ่านกองขยะที่ส่งกลิ่นเหม็นโชยไปถึงสวรรค์
“ ฉันขอเตือนพวกนายเลยนะ กุญแจรถถ้าดึงออกมาอย่างไม่ระวัง วันถัดไปก็จะหายไปอย่างลึกลับ ” หลี่ต้าออกปากเตือน แต่ดูเหมือนจะไม่มีใครสนใจคำพูดของเขา ทุกคนขยะแขยงและหลีกเลี่ยงห่างจากขยะกองนั้น เมื่อหลี่ต้าพูดจบ ผู้คนต่างก็หายวับไม่เห็นแม้แต่เงา
เขาส่ายหัว หลี่ต้าก็ตามเข้าไป
“ อ้า ! ”
ทันใดนั้นเองในโรงแรมมีเสียงแหลมที่น่าสะพรึงกลัวดังขึ้นมา หลี่ต้าสายตาเยือกเย็น ทำไมที่นี่ถึงมีซอมบี้ระดับสูงด้วยล่ะ ? เขาหนีเข้าห้องโถงไปอย่างรวดเร็ว
แค่เห็นเฉียนต้าฟู่นั่งฟุบอยู่บนพื้น ก็ตัวสั่นไปทั้งตัว สีหน้าเต็มไปด้วยความสะพรึงกลัว มองที่ใต้ขาของเขาอีกครั้ง ไม่คิดว่าจะปรากฏประกายวิบวับขึ้นมา
“ เจ้าศพอ้วน จะอ้วก ”
จ้าวซินยวี่จับแฟนสาวของเขา มองเฉียนต้าฟุ่ที่อยู่บนพื้นด้วยสีหน้ารังเกียจ : “ ไม่คิดว่าจะเป็นสภาพนี้ ทุเรศเสียจริง ”
“ เป็นอะไร ? ” หลี่ต้ามองเฉียนต้าฟู่แล้วมองอีก แล้วก็มองหวังหยวนอู่ เปิดปากถาม “ ไม่เป็นไร ” หวังหยวนอู่หยิบผ้าเช็ดตัวที่ก็ไม่รู้ว่าหาเจอจากตรงไหนมาเช็ดคราบเลือด “ เถ้าแก่เฉียนไปเก็บแหวนบนมือศพมา คิดไม่ถึงว่านั่นไม่ใช่ศพ แต่เป็นซอมบี้ที่ครึ่งหนึ่งไม่ขยับ แต่ถูกฉันจัดการไปแล้ว ”
หลี่ต้ามองเฉียนต้าฟู่ที่ยังคงนั่งตัวสั่นงันงกอยู่ที่พื้น สีหน้าเรียบเฉยอย่างหมดคำพูด : “ พี่ พี่หยุดนิ่งสักครู่ได้ไหม ของนั้นที่สวมอยู่บนนมือของซอมบี้ พี่หยิบมาก็ไม่แน่ว่าอาจจะรับเชื้อโรคอะไรมาก็ได้ ถ้าพี่ชอบ ไปเก็บเอาตามร้านค้าก็ได้ พวกเราก็ไม่ควรจะหยิบของจากพวกซอมบี้นะ ”
“ ฉัน ฉันจะไปรู้ได้ไงว่ามันเป็นซอมบี้ ” เสียงของเฉียนต้าฟู่เริ่มสั่นเครือเหมือนร้องไห้ “ ถ้ารู้ว่านั่นเป็นซอมบี้ ให้ตายฉันก็ไม่กล้าเข้าใกล้แล้ว! ”
“ เอาล่ะ ฉันจะแบ่งหน้าที่ละกัน ”
หลี่ต้าพยุงเฉียนต้าฟู่ขึ้นมา “ ฉันและลุงหวังจะไปสำรวจแต่ละห้อง กำจัดซอมบี้ เจ้าซินยวี่กับพี่ก็ไปหาพวกวัตถุที่แสงสว่างละกัน ซินเหยาแล้วก็.....”
หลี่ต้าชี้ไปที่แฟนสาวของเจ้าซินยวี่ ไม่รู้ว่าควรจะเรียกว่าอะไร : “ เธอชื่ออะไรล่ะ ? ”
“ ฉันชื่อหลี่เหมิง ” แฟนเจ้าซินยวี่ รีบตอบ
“ ซินเหยา นายและหลี่เหมิงสองคนรับผิดชอบทำอาหาร หนุ่มน้อยพนักงานเติมน้ำมันนายปิดประตูของโรงแรม วัตถุดิบก็ใช้ที่เฉียนต้าฟู่เอามานะ ”
เฉียนต้าฟู่รีบถาม : “ แล้วฉันล่ะ ? ฉันเคยเป็นพ่อครัว ทำอาหารเป็น ”
“ นาย ? ”
หลี่ต้ามองด้วยสายตาประเมิน : “ นายก็ไปเปลี่ยนกางเกงก่อนเถอะ ”
“ ฮ่าๆๆ ! ”
เจ้าซินยวี่ ชี้ไปที่เฉียนต้าฟู่แล้วหัวเราะกร๊ากออกมา สีหน้าเยาะเย้ย เฉียนต้าฟู่มองกลับ สีหน้าแดงฉานด้วยความเขินอาย เขาอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี
“ ลุงหวัง ลุงชั้นหนึ่ง ผมชั้นสอง ”
หวังหยวนอู่พยักหน้ารับ ไม่มีข้อโต้แย่งอะไร
หลี่ต้าก้าวขึ้นบันไดเก่าๆ ขึ้นไปบนชั้นสองคนเดียว
ระหว่างชั้นสองเป็นทางเดินแคบๆ ความกว้างของทางเดินมีขนาดเพียง 1 เมตร แคบระดับที่ว่าร่างกายสามารถสวนกันได้เพียงด้านเดียว เมื่อก่อนโรงแรมลักษณะอย่างนี้เขาก็เคยอาศัย ตอนนั้นเขายังเป็นเด็กมัธยมปลายคนหนึ่ง ไม่มีรายได้ นอนร่วมกับเพื่อนผู้ชายอีก 4 คนในเตียงเดียว นอนตัวตรงไม่สามารถตะแคงข้างได้
แต่ในอีกทางหนึ่งราคาก็เรียกได้ว่าถูกสุดๆ 1 คืนเก็บแค่ 30 หยวน
บนชั้นสองมีห้องอยู่ 5 ห้อง ประตูห้องก็เป็นประตูไม้เก่าๆ ประตูไม้เหล่านี้ก็ไม่รู้ว่าใช้มาแล้วกี่ปี ฝูงแมลงด้านบนแทะจนเป็นหลุมเต็มไปหมด เหมือนผู้หญิงสวยที่ลบเครื่องสำอางนั่นแหละ
เพราะไม่มีแสงสว่าง ในทางเดินที่มืดสนิท บนกำแพงผิวผนังหลุดลอกออกไป รูปวาดสมัยก่อนที่แขวนอยู่นั้น ยิ่งเพิ่มความน่ากลัวเข้าไปอีก
หลี่ต้าเดินไปรอบๆทางเดินนั้นอย่างระมัดระวัง เห็นประตูที่แตกหักอยู่ด้านซ้าย บนกำแพงของฝั่งประตู มีรอยขีดข่วนของสิ่งมีชีวิตที่ลึกมากๆประทับฝังแน่นอยู่
สายตาของหลี่ต้าสงสัย มือขวากดไปบนมุมที่จับสามเหลี่ยม
กรงเล็บนี้ไม่ใหญ่เท่านักสู้ แต่ระดับพละกำลังกลับเป็นกี่เท่าของนักสู้ กรงเล็บทุกแห่งบนกำแพงแห่งนั้นถูกหลุมขนาดใหญ่เปิดออกมา ท่ามกลางกระเบื้องแตกที่อยู่บนคอนกรีตทั้งหมด
เขาสูดหายใจเข้าลึกเข้าปอดหลังจากนั้นหลี่ต้าก็ผลักประตูที่แตกหักด้วยความรุนแรง
“ ฟู่ว ! ”
มีลมพัดมาปะทะหน้า เงาดำๆทอดผ่านมาจากที่ข้างหูของหลี่ต้า แม้กระทั่งหลี่ต้าก็รับรู้ได้ว่าในปากมันปล่อยลมร้อนออกมา
หลี่ต้าขนหัวลุกไปทั้งตัว เจ้าสิ่งมีชีวิตนี้ไม่ได้จะฆ่าเขา ถ้าเมื่อสักครู่ลมนั้นปะทะกับเขาที่ฝั่งประตู ทั้งตัวเขาคงจะถูกดึงลงมาแล้ว
เงาดำนี้กระทบกับกำแพงที่ด้านหลังหลี่ต้า เงาดำกระโดดหลายครั้งจากฝั่งหนึ่งไปยังบนหน้าต่างของปลายทางเดิน
“ เมี้ยว ! ”
“ เจ้าบ้านี่ คือแมวเหรอ ? ”
หลี่ต้าอดไม่ได้ที่จะสบถคำหยาบคายออกมา มองไปบนขอบหน้าต่างอย่างระแวดระวังความเร็วขนาดนั้นไม่เหมือนสิ่งมีชีวิตเลย
ลักษณะรูปร่างของสิ่งมีชีวิตนี้ดูเหมือนจะไม่แตกต่างจากแมวเลย ความยาวลำตัว 40 ซม. หัวกลมหูตั้ง มีขาสี่ข้าง สายตานิ่งสงบของมันมีสีเหลืองอำพันมองมายังหลี่ต้า
[คู่มือ]
ชื่อ :แมว
สถานะ :วิวัฒนาการ
ระดับ :3
ชีวิต :30
พลังงาน :7
การป้องกัน :5
พละกำลัง :8
ความเร็ว :12
ความต้านทานไวรัส :4.2
ความสามารถพิเศษ :
1. รวดเร็ว :พัฒนาพลังงานอย่างคงทนในระยะเวลาอันสั้น ความเร็วเพิ่มขึ้น 30%
2. ไม่ทราบ
3. ไม่ทราบ
การประเมินประสิทธิภาพการต่อสู้ :2 ดาว
ช่วงเวลาที่หลี่ต้าใช้คู่มือแมววิวัฒนาการที่อยู่บนขอบหน้าต่าง แมวที่อยู่บนขอบหน้าต่างก็มองเขาด้วยสีหน้าที่แปลกใจ
ไม่เลว ช่างอยากรู้อยากเห็น
หลี่ต้ายากมากที่จินตนาการ ท่าทางน่าสงสารอย่างนี้ทำไมถึงได้ปรากฏอยู่บนหน้าสัตว์กันนะ เขาเดาว่า สัตว์วิวัฒนาการเมื่อโดนรังสีอัลตร้าไวโอเล็ต สติปัญญาก็เพิ่มขึ้นด้วย
ขนของมันสีขาวล้วนราวกับผ้าซาตินชั้นดี ทำให้คนที่มองเห็นก็อดไม่ได้ที่จะอยากลูบคลำ แต่หลี่ต้ากลับไม่กล้าไปลูบมัน เพราะแมวตัวนี้ดูแล้วจะเป็นอันตรายต่อทั้งคนและสัตว์ พลังงานก็เป็น 2 เท่าของหลี่ต้า พอกรงเล็บฝังลงไป ปริมาณเลือดของหลี่ต้าก็จะกลายเป็น 0
หลี่ต้าจับอาวุธด้วยมือเดียว วางท่าพร้อมสู้ หน้าผากก็มีเหงื่อออกมาเป็นเม็ดๆ แต่ดูแล้ว เจ้าแมวหง่าวตัวนี้ไม่ได้เป็นศัตรูกับหลี่ต้า
“ เมี้ยว ! ”
สบตากับหลี่ต้าอยู่นาน บางทีมันคงรู้สึกว่าหลี่ต้าช่างไม่น่าสนใจจริงๆ เสียงแมวสันหลังยาวร้อง และส่ายหางไปมา นอนราบไปบนขอบหน้าต่างแล้วหาวขึ้นมา
หางของมันกวาดไปโดนกำแพงด้านข้างขอบหน้าต่างอย่างไม่ตั้งใจ ทันใดนั้นก็ร้องเสียงก้องขึ้นมา กระเบื้องเซรามิกก็ร้าวขึ้นมา
เห็นสิ่งมีชีวิตวิวัฒนาการไม่ได้เป็นศัตรูกับตัวเอง หลี่ต้าก็ค่อยๆผ่อนคลายลง
“ เมี้ยว ! ”
แมววิวัฒนาการส่ายหางไปมา สายตา กลับมองไปทางกระเป๋าเป้ที่หลังเขา
“ มันหิวเหรอ ? ”
ในใจหลี่ต้าคิด เอาไส้กรอกออกมาแท่งหนึ่งอย่างระมัดระวัง ค่อยๆวางลงบนขอบหน้าต่าง
แมววิวัฒนาการดมที่ไส้กรอก กัดแล้วกลืนลงไปคำนึง กินเสร็จ ก็ยังส่ายหางไปมาให้หลี่ต้าอยู่
สำหรับแมววิวัฒนาการแล้ว หลี่ต้าไม่รู้อะไรเลย เขาไม่กล้าขยับตัวเร็วนัก ดังนั้นสัมผัสเจ้าแมว ตัดสินใจ หลี่ต้าเอาออกมาอีกราวๆ 10 กว่าแท่งวางลงที่ด้านหน้ามัน
ลำตัวของแมววิวัฒนาการน้อยที่น่ารักตัวนั้นเหมือนเป็นหลุมลึกหลุมหนึ่ง ไส้กรอก 10 กว่าแท่งเมื่อครู่ถูกกินอย่างตะกละตระกราม กินเสร็จ มันอิ่มหนำสำราญอย่างพึงพอใจ สี่ขาเหยียดกราย ราวกับสายฟ้าแลบที่จะกระโดดออกไปนอกหน้าต่าง
หลี่ต้ารีบพุ่งไปที่ด้านหน้าของหน้าต่าง เห็นเพียงแค่รอยเลือดสีดำแดงที่ระเบิดความแข็งแรงอย่างไม่หยุดของแมววิวัฒนาการสี่ขาตัวนั้น ขนของมันพองเป็นเกลียว พลังงานสีแดงเลือดพุ่งทะลักออกมาเป็นเส้นๆ ทำให้มันดูเหมือนสายฟ้าสีแดงเป็นสาย
ด้วยความเร็วที่เร็วมากของแมววิวัฒนาการ หลี่ต้าก็หมดปัญญาจะมองเงาของมันได้อย่างชัดเจน กระโดดไปมาอยู่หลายครั้ง ก็หายไปในตึกสูง อิงได้จากพลังงานที่พุ่งออกมาเป็นเส้นแสงเท่านั้นถึงจะสามารถแยกแยะทิศทางเข้าออกของแมววิวัฒนาการได้
“ ฮู่ว.... ”
หลี่ต้าถอนหายใจยาว ก่อนจะพบว่า เสื้อกั๊กของตัวเองเปียกชื้นไปหมดแล้ว
หลี่ต้าเข้าไปในห้อง สำรวจอย่างละเอียด ธุรกิจของโรงแรมแห่งนี้ มีห้องพัก 5 ห้องมีแขกพักอาศัยเพียงแค่ 2 ห้อง ไม่มีข้อยกเว้นสำหรับทั้ง 2 ท่านนี้ ก็กลายเป็นซอมบี้แล้ว แต่พวกมันหัวแตกทั้งหมด สมองหายไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่ต้องคิดเลย นี่น่าจะเป็นผลงานชิ้นเอกของเจ้าแมววิวัฒนาการที่เป็นอันตรายต่อคนและสัตว์ตัวนั้น
หลี่ต้าหาผ้าสะอาดซักผืน มาแทนผ้าบนร่างกายที่มีแต่คราบเลือดนั้น ปิดประตูห้องสนิท เดินลงบันไดไป
หวังหยวนอู่สำรวจตรวจตราชั้น 1 ไปรอบนึงแล้ว ไม่เพียงแต่เปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่บนร่างกาย ในมือยังถือแสงไฟสว่างๆด้วย
“ หืม ? ” เห็นแสงเรืองรองของพระอาทิตย์กำลังจะตกอยู่ในห้องโถง หลี่ต้าขมวดคิ้ว “ ทำไมยังไม่ปิดประตูลงมา ? ”
“ รายงานพี่ต้า ” เสี่ยวโจวที่ยืนอยู่หน้าประตูพูดอย่างเคารพ “ ด้านนอกมีตำรวจท่านหนึ่งมา บอกว่ามีธุระจะปรึกษากับผู้นำพวกเรา คุณลองไปดูสิ ? ”
“ ตำรวจ ? ”
หลี่ต้าตะลึงงัน มองไปทางหวังหยวนอู่ “ ลุงหวัง พวกเราออกไปดูกัน ”
ไม่เพียงแต่หวังหยวนอู่ แม้แต่เจ้าซินยวี่ และเฉียนต้าฟู่ทั้งสองคนก็อดไม่ได้ที่จะเดินตามไป คิดไม่ถึงว่าตำรวจแค่คำสองพยางค์นี้
เฉียนต้าฟู่และเจ้าซินยวี่ ต่างก็แสดงเจตนาไม่ดี ถ้าพลังงานของตำรวจแข็งแรงพอ พวกเขาก็จะไม่ลังเลที่จะออกห่างหลี่ต้า ใช้ความช่วยเหลือของกำลังตำรวจย้ายไปที่กองทัพทหาร
ผู้ชายวัยกลางคนที่สวมใส่ชุดตำรวจยืนอยู่หน้าประตู เขาดูสุภาพ ทำให้คนที่มองเกิดความรู้สึกที่ดี เขาทั้งพูดกับเสี่ยวโจวอย่างเกรงใจ ทั้งมองไปภายในรอบๆห้องด้วย
“ สวัสดี คุณตำรวจ ” หลี่ต้าเดินไปด้านหน้าเขา “ คุณมีธุระอะไรหรือ ? ”
“ เอ่อ คุณเป็นผู้นำเหรอ ? ” เห็นหลี่ต้าร่างผอมบาง ตำรวจคนนั้นก็แสดงท่าทางไม่เชื่อ “ ไม่ ผู้นำของกองกำลังพวกเราคือลุงหวังของผม ” หลี่ต้าดันหวังหยวนอู่ขึ้นไปด้านหน้าเขา
หวังหยวนอู่มองหลี่ต้าด้วยสายตาตื่นตระหนก แต่ไม่ได้พูดอะไร เขาพยักหน้ารับ : “ คุณตำรวจ มีธุระอะไรก็พูดมาได้เลย ”
ร่างกายที่แข็งแรงของหวังหยวนอู่เหมือนมีพลังที่แข็งแกร่งกระจายออกมา ตำรวจคนนั้นพยักหน้ารับ พูดว่า :
“ อย่างนี้นี่เอง ฉันเป็นตำรวจแผนกอาชญากรรมของเขตเหวินชาน จากเหตุการณ์ไวรัสระบาด ก็ได้ขาดการติดต่อกับผู้บังคับบัญชาไปแล้ว ” ตำรวจพูดอย่างมีมารยาท “ รถตำรวจของพวกเราตอนนี้ก็น้ำมันหมด วันนี้เห็นว่ามีเพื่อนบ้านใหม่มา ก็เลยอยากมาถามพวกคุณสักหน่อยว่ามีน้ำมันไหม ให้พวกเรายืมสักหน่อยได้ไหม ”
“ อ้อ เป็นอย่างนี้เอง ! ” หวังหยวนอู่มองเขาอย่างครุ่นคิด สายตาของเขามองอย่างไม่ทิ้งร่องรอยให้คาดเดา “ ขอโทษจริงๆ พวกเราก็ไม่มีสำรองเลย ”
“ ” สีหน้าตำรวจถอนหายใจอย่างหมดหวัง “ อย่างนั้น เข้าไปดื่มน้ำสักหน่อยได้ไหม ผมเดินมาก็เลยกระหาย ”
หวังหยวนอู่มองไปที่หลี่ต้า
“ ไม่ต้องเข้าบ้านหรอก น้ำของพวกเราอยู่ในกระเป๋าเป้ ”
หลี่ต้าหันกลับหลัง พูดกับเจ้าซินยวี่ ว่า : “ พี่ยวี่ พี่ดูหน่อยสิ แบ่งน้ำให้คุณตำรวจท่านนี้ดื่มสักหน่อยได้ไหม ? ”
“ อ้อๆ ผม ”
เจ้าซินเหยาหน้ามึนงง เขาไม่เข้าใจเลยจริงว่าทำไมหลี่ต้าถึงเรียกเขาว่าพี่ ส่งกระเป๋าเป้ไปอย่างงงๆ หลี่ต้ากำลังจะเปิดกระเป๋าของเขา ด้านในเต็มไปด้วยอาหาร
หลี่ต้าหยิบน้ำขึ้นมา 1 ขวด ยื่นไปให้ตำรวจคนนั้น : “ คุณตำรวจ ถ้าไม่มีธุระอะไรแล้วก็เชิญกลับเถอะ ”
“ หนุ่มใส่ชุดถูกๆนี้ ก็อยากร่วมเป็นพี่น้องกับทุกคน ”
ตำรวจดื่มน้ำไป พูดคุยหัวเราะกับเจ้าซินยวี่ ไปพลาง
ยังไม่ทันรอเจ้าซินยวี่ พูด หลี่ต้าก็พูดขึ้นมา พูดอย่างภาคภูมิ : “ พี่ยวี่มาจากครอบครัวที่แตกต่าง เป็นตระกูลจ้าวจากนิวยอร์ก ไม่เพียงแต่ประวัติครอบครัวที่ดี ทักษะความสามารถก็เชี่ยวชาญอีกด้วย ถ้าไม่มีพี่ยวี่ พวกเราไม่กล้าวิ่งตามถนนเด็ดขาด ”
เจ้าซินยวี่ ในตอนนั้นสับสน เขาไม่รู้ว่าหลี่ต้าเป็นบ้าอะไร ไม่เพียงแต่คุยโวโอ้อวดตัวเอง อย่างนั้น เขาคิดไม่ตกจริงๆว่าหลี่ต้าทำอย่างนั้นเพื่ออะไร เพียงแค่ยิ้มแห้งๆเท่านั้น
“ ฮีโร่วัยรุ่น ”
ตำรวจคนนั้นชื่นชมจากใจจริง “ เอาเป็นว่า อย่างนั้นผมก็ไม่รบกวนแล้ว ต้องไปแล้ว ”
“ ไม่ส่งนะ ”
หลี่ต้าโบกมือ