Chapter 14 – BAD TIMING
"รีบๆกิน เร็วเข้า แล้วผมจะพาคุณกลับบ้าน เมื่อกี๊ผมเห็นคุณหาว ผมรู้ว่าคุณเหนื่อย"
ดรูวส์จิบน้ำผลไม้ช้าๆอย่างมีเสน่ห์ "คุณต้องการจะพาฉันกลับไปที่บ้าน(คุณ) ? แน่นอนฉันไม่ได้รังเกียจ "
"หาาา..." เอริคตกตะลึงจนอ้าปากกว้างจนผ้าเช็ดมือที่ผูกไว้ที่คอหลุดออกมา เอริคทำตาดุใส่เธอ
ยัยหนูคนนี้พิเรนจริงๆ
ไม่กี่นาทีต่อมาเอริคก็พบว่าดรูวส์ค่อยๆกินช้าลงและช้าลงไปอีก จนในที่สุดมือเธอก็สั่น
จนไม่สามารถจับมีดกับส้อมเอาไว้ได้
เขากำลังจะถามเธอว่ารู้สึกไม่สบายที่ไหนรึเปล่า แต่เขาก็นึกออกทันที เขาจำได้ว่า ในชีวิตที่แล้วของเขา อาการแบบนี้ เป็นอาการของคนติดยาเสพติด
เอริคยิ้มอย่างขมขื่นในขณะมองไปที่ดรูวส์ ที่กำลังพยายามอดทนให้ถึงที่สุด เขาตะโกนทันทีว่า
"พนักงาน ขอเช็คบิลหน่อย!"
เขาอยากจะออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ แม้ว่าเรื่องยาเสพติดของดรูวส์จะไม่ใช่ความลับอีกต่อไป เพราะได้มีการกล่าวถึงโดยหลายบทความทางหนังสือพิมพ์ แม้จะไม่มีหลักฐานชัดเจนก็ตาม
แต่ในใจของใครหลายคน ดรูวส์ยังคงเป็นเด็กน้อยที่น่ารักคนหนึ่ง ถ้าเธอถูกจับได้หรือถูกถ่ายภาพ
ในสถานที่สาธารณะ นั่นอาจส่งผลร้ายแรงต่อภาพลักษณ์ของเธอ
หลังจากจ่ายเงินเสร็จ เอริคมองไปที่สาวน้อยที่ดูเหม่อลอยและกล่าวว่า " ดรูวส์ไปกันเถอะ ผมจะพาคุณไปส่งบ้าน"
ทั้งสองคนจูงมือกันออกจากร้านอาหาร เอริครู้สึกได้ว่าร่างกายเล็กกะทัดลัดของเธอกำลังสั่น
เขารู้สึกสงสาร แต่ก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้
ในรถ ดรูวส์นั่งตัวสั่นในที่นั่งผู้โดยสาร และทันทีที่เอริคสตาร์ทรถเธอก็พูดว่า " เอริคคุณช่วยซื้อ...ซื้อ..."
"ไม่" เอริคปฎิเสธอย่างเด็ดขาด" ดรูวส์อดทนหน่อยนะ บอกที่อยู่ผมมา ผมจะพาคุณกลับบ้าน"
"ไม่เอา!" ดรูวส์รีบส่ายหัว เธอตะโกนอย่างบ้าคลั่งว่า "ฉันยังไม่อยากกลับบ้าน ถ้าผู้หญิงคนนั้นเห็นฉันสภาพนี้ เธอต้องส่งฉันไปบำบัดแน่ๆ ฉันยังไม่อยากกลับ ฉันยังไม่อยากกลับ!"
เอริครับปากดรูวส์ "เข้าใจแล้ว เราจะไม่ไปที่นั่น" จากนั้นเขาก็เริ่มขับรถตรงไปยังบ้านของเขา
เมื่อเอริคมาถึงโรงจอดรถที่บ้านเขาและพาดรูวส์ที่กำลังสับสนเข้าไปในห้องนอนของเขา
"เอริค เอริค ฉันขอร้องหละ ฉันขอร้อง ได้โปรดช่วยซื้อมันมาให้ฉันที...." ดรูวส์ขดตัวในอ้อมแขนของเขา เธอคว้าคอเสื้อของเขาแล้วอ้อนวอนทั้งน้ำตา
อุววแหวะ –
แม้แต่เด็กสาวที่หน้าตาดี ก็ดูไม่ค่อยดี เมื่อเธออ้วก สเต็กที่เพิ่งถูกกินได้ออกมาอยู่บนเตียงและบางส่วน
ก็เปรอลงบนเสื้อเขา ทั่วทั้งห้องนั้นเต็มไปด้วยกลิ่นอันไม่พึงประสงค์
เอริคขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่เมื่อมองไปที่หญิงสาวที่กำลังดิ้นรน สีหน้าของเขาก็นุ่มนวลลง
ความรู้สึกเยือกเย็นผ่านเข้ามาในร่างกายของเธอ ดรูวส์จับตัวเอริคอีกครั้งและพึมพัมในขณะที่ตัวสั่นว่า
"คุณ.....ถ้าคุณไม่ช่วยฉันซื้อ...ฉันจะ...."
เอริคกอดดรูวส์และบอกว่า "ดรูวส์ คุณต้องอดทนให้ได้ ฟังนะถ้าผมทำสิ่งเหล่านั้นให้คุณมันจะส่งผลตรงข้าม พวกมันไม่จำเป็นกับคุณ คุณต้องเข้มแข็ง จำได้ไหมคุณคือสาวน้อยผู้โชคดีที่ได้จูบมนุษย์ต่างดาว ?"
"ฉัน...ไม่ใช้...เด็กสาว..ผู้โชค..ดี "
เอริคไม่รู้วิธีจัดการเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ ถึงแม้ว่าเขาจะได้พบกับคนที่เสพยาหลายคนในชีวิตที่แล้ว
แต่เขาก็ไม่เคยพบว่าตัวเองจะอยู่ในสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกัน ในเวลานี้เขาคิดว่าถ้าอุณหภูมิร่างกาย
ของเธออุ่นขึ้นอาจจะช่วยเธอได้บ้าง ดังนั้นเขาจึงได้ดึงเธอมากอดในอ้อมแขนของเขาและลูบหลังของเธอ เขาพยายามจะทำให้เธอรู้สึกดีขึ้น
ดรูวส์ ทั้งขอร้องทั้งข่มขู่และสาปแช่งเอริคนานกว่าหนึ่งชั่วโมง แต่หลังจากรั้งตัวเธอไว้แน่น
เขาอดทนพยายามที่จะปลอบโยนเธอ ในที่สุดเขาก็พบว่าเธอนั้นได้หลับลงในอ้อมแขนเขาแล้ว
ร่างกายของเขาอยู่ในตำแหน่งเดิมมานาน ทำให้ขาของเขาเริ่มแข็งทื่อ
เขาพยายามจะวางเด็กสาวลงบนเตียง แต่ใครจะรู้ทันทีที่ปล่อยมือไปเด็กสาวคนที่ก็เริ่มดิ้นรน
ราวกับปลาพ้นจากน้ำ มือของเธอโบกไปมาราวกับพยายามจะหาบางอย่าง
เอริคถอนหายใจ เขาหาตำแหน่งที่สะดวกสบายมากขึ้นแล้วนำเด็กสาวเข้าในอ้อมแขนอีกครั้ง
เมื่อหัวของดรูวส์แตะที่หน้าอกของเขา ลมหายใจหอบๆของเธอก็กลับมาอ่อนโยนอีกครั้ง
เมื่อกอดเธอเช่นนี้เอริคก็นึกถึงภรรยาและลูกชายของเขาจากชีวิตที่แล้วของเขา
ลูกชายของเขานั้นอายุ 5 ขวบและภรรยาของเขาเคยทำงานเป็นสเมียน แต่เธอลาออก
มาเป็นแม่บ้านเต็มเวลานับตั้งแต่เงินเดือนของเขาพอจะเลี้ยงดูเธอได้ เขาสงสัยว่าตอนนี้
พวกเขาทั้งสองคนจะเป็นเช่นไรบ้างหลังการจากไปอย่างกะทันหันของเขา หวังว่าพวกเขาจะไม่เป็นไรนะ
ดรูวส์ฝันว่าตัวเองเป็นนางเอกของภาพยนต์เรื่องหนึ่ง เธอร่วงลงและพบว่าตัวเองอยู่ในป่าที่มืดมิด
เธอสับสนและอยู่เพียงลำพังอย่างโดดเดี่ยว จากนั้นเจ้าชายก็โผล่มาช่วยเธอจากแอปเปิ้ลพิษของแม่เลี้ยงเธอ
ดรูวส์เข้าร่วมกับเขาและคนแคระต่อสู้กับการกดขี่ของราชินีผู้ชั่วร้าย แล้วพวกเขาก็ได้จัดงานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่ ในพระราชวังที่ตกแต่งด้วยขนมและเค้ก เจ้าชายอุ้มเธอไปที่ห้องหอ เขาวางตัวเธอไว้บนเตียงที่มีฝ้าห่มผืนหนา และดึงตัวเธอเข้าในอ้อมอก ในขณะที่เธอยิ้มอย่างมีความสุขราวกับดอกไม้บาน
จากนั้นเธอก็ตื่นขึ้นมา
เธอพบว่าตัวเองเอนกายอยู่ภายในอ้อมกอดแสนอบอุ่นของชายคนหนึ่งและแขนของเธอก็เกาะแน่นบนเอวเขา
หลังจากเริ่มสับสน เธอก็เริ่มระลึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนได้แม้จะไม่ทั้งหมดก็ตาม
เธอมองไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของเอริคเล็กน้อย สายตาของเธอดูลุ่มหลง เส้นผมสีบลอนด์ของเขากระจายออกและผิวของเธอก็รู้สึกถึงลมหายใจอันอ่อนโยนของเขา มันทำให้หัวใจของเธอกระหน่ำเต้นเร็วขึ้น
ทุกคนคิดว่าดรูวส์เป็นลูกคนโปรดของพระเจ้า เธอเป็นเป็นคนอายุน้อยที่มีชื่อเสียงและมีโอกาสที่ไม่จำกัด แต่เธอไม่เคยรู้สึกมีความสุข ความไม่แยแสและไม่ใส่ใจของพ่อเธอ ความโลภไม่สิ้นสุดของแม่เธอ ทำให้เธอรู้สึกหดหู่เหมือนนกที่อยู่ในกรงที่ไม่ต้องการอะไรอื่นนอกจากการเป็นอิสระ
ดังนั้นเธอเลยหลงมัวเมาไปกับสิ่งเลวร้ายเพื่อแสดงความไม่พอใจต่อชีวิตของเธอ
หลังจากรู้ว่าหญิงสาวเริ่มใช้สิ่งนั้น แม่ของดรูวส์ไม่ได้เป็นห่วงตัวเธอ แต่กังวลว่าเธออาจจะไม่สามารถทำเงินได้อีกต่อไป ความเย็นชาเช่นนี้นำไปสู่การติดยาเสพติดที่มากขึ้นของดรูวส์
สาวน้อยคนไหนไม่ฝันถึงเจ้าชายผู้ทรงเสน่ห์บ้าง ? เขาทั้งอ่อนโยน ตัวสูง หล่อและมีพรสวรรค์ไม่ทำตัวหยาบคาย เขาต้องมีความอดทน พัดให้เธอเวลาเธอร้อน กอดเธอเมื่อเธอรู้สึกหนาว และเมื่อเธอเป็นหวัดก็ต้องดูแลเธอ แม้ว่าเธอกำลังจะตาย เขาก็จะขี่มังกรของเขามุ่งไปยังขุมนรกแล้วนำเธอกลับมา......
และตอนนี้เจ้าชายคนนั้นก็ปรากฎตัวขึ้นมาจริงๆ แม้ว่าจะต่างกับจินตนาการเล็กน้อย แตกต่างตรงที่คนที่เขารักไม่ใช่เธอ แต่นั่นมันก็เป็นเพียงแค่รายละเอียดเล็กน้อย
แผนเดิมของดรูวส์คือแย่งเอริคไปจากเจนนิเฟอร์ อนิสตัน เพื่อโต้ตอบคำพูดแสนร้ายกาจ
แต่ตอนนี้สิ่งนั้นได้พัฒนาไปจนถึงจุดที่ว่าเธอไม่สามารถถอนตัวไปจากเขาได้
บางที เพราะรู้สึกได้ถึงบางอย่างเอริคเปิดตาก็เห็นดรูวส์มองเขา เขายิ้มอย่างอ่อนโยนและกล่าวว่า "คุณตื่นแล้วต้องหิวแน่ๆ ผมจะทำอาหารเช้าให้ ในระหว่างนี้คุณไปอาบน้ำก่อน กลิ่นพวกนี้มันเหม็นเหลือทนจริงๆ"
"เอริคทำไมคุณถึงทำดีกับฉัน ?"
"เอิ่มมม..." เอริคสะดุ้ง เขาเอื้อมมือออกไปแล้วลูบหัวดรูวส์เบาๆ "เพราะเราเป็นเพื่อนกัน"
เขาลุกขึ้นนั่งลง ดรูวส์ได้เข้ามาจูบที่ใบหน้าเขาอย่างรวดเร็ว
"อ้ะ ดรูวส์ปากคุณเหม็น" เอริคกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ดรูวส์คล้องไปที่คอเขา "เอริคฉันรักคุณ"
"ก็ดีฉัน..." เอริควางดรูวส์ลงและเปิดม่านออก แสงอาทิตย์ยามเช้าสาดแสงเข้ามา
ดรูวส์มองไปที่แผ่นหลังของเขาแล้วบุ้ยปาก "ฉันแค่อยากให้คุณรู้ไว้"
"อ่า ผมรู้แล้ว" เอริคบีบใบหน้าที่น่ารักของดรูวส์
"เอริคฉันเพิ่งรู้บางสิ่ง"
"อะไรหรอ ?"
"คุณกอดฉันทั้งคืนโดยไม่ได้ทำอะไร ฉันคิดว่าคุณอาจมีปัญหาเกี่ยวกับตรงนั้น
คุณต้องการให้ฉันตรวจสอบให้ไหม ? ฉันจะทำให้ฟรี !"
"คุณใจดีจริงๆ ดร.แบร์รี่มอร์ แต่ผมอยากจะให้คุณรีบไปอาบน้ำก่อน พวกเราจะไปทำงานสาย"
"คุณต้องการจะเข้าไปอาบน้ำกับฉันไหม?"
"ไม่ล่ะ ผมจะไปอาบข้างล่าง"
"อ้ะ นี่มันไม่ถูกต้องเอริคเราควรใช้ทรัพยากรน้ำอย่างประหยัด เราต้องไม่สิ้นเปลือง คุณลองคิดเกี่ยวกับคนในแอฟริกาสิ ที่นั่นขาดแคลนน้ำมาก บางคนขาดน้ำมากๆ อาจตายได้เลยนะ"
"ถูกของคุณ ผมจะเริ่มประหยัดตั้งแต่พรุ่งนี้ ขอให้วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ผมจะใช้น้ำอย่างฟุ่มเฟือย"
"คุณอ่ะ...."
ฤดูร้อนปี 1988 เด็กสาวที่ถูกปกคลุมไปด้วยความมืดได้พบกับแสงสว่างที่แสนอบอุ่น ดั่งเช่นเดียวกับ
เด็กที่กำลังจมน้ำ เธอคว้ามันไว้แน่น ด้วยแรงทั้งหมดที่เธอสามารถรวบรวมมาได้