Chapter 13 – MEETING A GOBLIN
อีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมาการถ่ายทำฉากที่โรงเรียนก็เสร็จสิ้นลง
ทางทีมงานได้ยกกองถ่ายไปถ่ายทำยังสถานที่อื่นๆ
"ว้าว !" ซูซาน ซาแรนดอน เข้ามาหาเอริคและยื่นมือออกไปบีบหน้าเขา
และร้องขึ่นว่า " เธอดูคล้ายสามีฉันมากเลย"
"ฮะๆๆ"
"แปลก มันแปลกมาก"
"ใช่แปลกจริงๆ" เอริคเห็นด้วย
"เกิดอะไรขึ้น ?" ซูซานพูด
เมื่อมองไปยังหน้าจอมอนิเตอร์เพนนี มาร์แซลตะโกนว่า "Cut! เอริคคุณหลุดหัวเราะออกมาอีกแล้วนะ
นี่เป็นครั้งที่ห้าแล้วนะ ครั้งที่ห้า ! หัดควบคุมตัวเองหน่อยสิ"
คนที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้กำกับมันจะอารมณ์ไม่ดี เพราะพวกเขามีคาดมุ่งหวังในผลงาน ทุกครั้งที่นักแสดงถ่ายพลาด
พวกเขาเสียทั้งเงินทั้งเวลา ช่วยไม่ได้ที่พวกเขาจะหงุดหงิด หากปล่อยให้พวกเขาเป็นอย่างนี้ต่อไปก็อาจจะคลั่งได้
เมื่อเป็นเช่นนี้เอริคได้แต่ขอโทษครั้งแล้วครั้งเล่า "ผมขอโทษด้วยเพนนี ผมสัญญาจะไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก"
เพนนี มาร์แซลกรอกตาไปมา นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เอริคให้สัญญาเช่นนี้
"ทุกคนเตรียมพร้อม เราจะเริ่มกันอีกครั้ง !"
ซูซาน ซาแลนดอน ที่ยืนอยู่ข้างเอริคพูดขึ้นว่า "เอริคครั้งต่อไป ถ้าฉันบีบหน้าคุณ พยายามอย่ามองมาที่ฉัน"
"คุณซาแลนดอน ผมจะพยายามลองทำดู"
ทั้งๆที่เนื้อเรื่องในฉากนี้ไม่ได้ตลก แต่ไม่รู้ว่าทำไมเอริคถึงหลุดหัวเราะออกมาทุกครั้ง
เมื่อพวกเขาเริ่มถ่ายทำกันอีกครั้ง เขาพยายามทำตามคำแนะนำของซูซาน ซาแรนดอน แม้ว่าเขาเกือบ
จะหลุดขำออกมาหลายครั้ง แต่เขาก็พยายามจะยับยั่งตัวเอง แล้วในที่สุดเขาก็ผ่านมันไปได้ในครั้งที่หก
ระหว่างช่วงพักเอริคเดินไปหาผู้หญิงคนนั้นแล้วกล่าวว่า "คุณซาแรนดอลขอบคุณสำหรับคำแนะนำของคุณครับ"
"แค่นี้เองไม่เป็นไรหรอกเอริค แต่คุณมีพรสวรรค์มากจริงๆรู้ไหม ฉันไม่เคยเห็นใครแสดงเป็นครั้งแรกได้เท่าคุณ"
"ขอบคุณมากครับซูซาน เอิ่ม ผมมีเรื่องอยากจะถามคุณหน่อย ? "
"หืมม ?"
เอริคกล่าว"คือว่าแบบนี้ รูปร่างของคุณมันดูดีมาก คุณทำได้ยังไง ?"
"โอ้ว้าว เอริคคุณกำลังจะจีบฉันหรอ?" ซูซานยักคิ้วแล้วยิ้ม
เอริคเข้าใจความหมายของสิ่งที่เธอพูด ในฮอลลีวู้ดดาราหญิงที่มีอายุมักมองหาแฟนหนุ่มที่อายุน้อยกว่า
มันไม่ใช่อย่างนั้น มันเป็นเรื่องที่ยากมากที่ผู้หญิงวัย 60ปี พยายามยื่นมือไปแตะต้องหนุ่มวัย 30 ปี
"ไม่ใช่แบบนั้นซูซาน....จริงๆแล้วแฟนผมกำลังพยายามลดน้ำหนักเมื่อไม่นานมานี้
ผมเลยอยากจะขอคำแนะนำจากคุณ"
"อ่อ ฉันเข้าใจล่ะ การลดน้ำหนักมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย พอดีฉันรู้จักเทรนเนอร์ฝีมือดีในเบเวอร์ลีฮิลส์
เธอเปิดฟิตเนสออกกำลังกายสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะและยังเป็นนักโภชนาการมือฉกาจอีกด้วย
คุณสามารถลองให้แฟนของคุณไปรับคำแนะนำที่นั้นได้ เธอจะให้โปรแกรมการลดน้ำหนักที่เหมาะสมแก่แฟนของคุณ"
"คุณช่วยบอกที่อยู่ของที่นั่นหน่อยได้ไหม?"
ซูซาน ซาแรนดอน ขอกระดาษและปากกาจากผู้ช่วยของเธอ จากนั้นเธอก็ทำการเขียนแล้วมอบให้เอริค
เขาบอกขอบคุณเธอแล้วเดินจากไป
เมื่อเขากลับไปยังจุดพักและกำลังนั่งลง ดรูวส์รีบเข้ามาดึงเก้าอี้เขาไปนั่งแล้วถามว่า
"นี่เอริค ซูซานเขียนอะไรให้คุณ ? หรือนัดกันไปเดท ? "
เมื่อเอริคสังเกตเห็นดรูวส์ ทำตัวเป็นยัยหนูเจ้าเล่ห์ เขาก็พูดว่า "เธอนี่มันฉลาดจริงๆนะ สำหรับเด็กอายุสิบสาม"
"ฮะๆ!" ดรูวส์หัวเราะออกมาเสียงดัง เธอพยายามกวนประสาทเอริคหลายครั้งแต่เขาก็ไม่ได้ตอบสนอง
เธอพูดว่า "ฉันเคยได้ยินว่าคุณโตขึ้นมาโดยไม่มีแม่ นั่นอาจจะส่งผลทำให้คุณกลายเป็นโรคติดแม่ก็ได้นะ"
แน่นอนว่าเอริคเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ครอบครัวของดรูวส์
"เฮ้ดรูวส์ อย่าพูดถึงเรื่องนั้น ดีกว่านะ"
ดรูวส์คิดว่าเขาโกรธเพราะเธอพูดถึงแม่ของเขา เธอแลบลิ้นใส่เขา
"ฉันจะพูด ฉันจะหยุดพูดก็ต่อเมื่อ คุณจะชวนฉันไปกินอาหารเย็นด้วยกัน โอเคมั้ย ?"
เอริคส่ายหัว "ผมต้องถามแอนนี่ก่อน"
"ยัยสาวไซต์ยักษ์นั่นอีกแล้ว! คุณวางแผนจะรับ T-Rex มาเลี้ยงหรอไงห้ะ ?"
เอริครู้สึกประหลาดใจที่เด็กยุคนี้ เริ่มใช้คำแสลงเกี่ยวกับไดโนเสาร์กันแล้ว
"Tyrannosaurus Rex ? ดรูวส์เธอไม่ควรพูดแบบนั้นต่อหน้าผมนะรู้ไหม ? ถ้าคุณเป็นผู้ชายผมคงได้อัดคุณไปแล้ว "
"คุณอย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะเหตุผลเดียวที่ยัยนั่นได้บทนี้ ก็เพราะเห็นแก่หน้าคุณ เพราะว่าคุณชอบเธอ แต่ด้วยศักดิ์ศรีโง่ๆของยัยอ้วนนั่น เธอเลยไม่ยอมเป็นแฟน อย่างเป็นทางการกับคุณจนกว่าจะปิดกองถ่าย ฮึ! ยัยผู้หญิงเจ้าเล่ห์"
"ดรูวส์"ท่าทางของเอริคดูเคร่งขรึมขึ้น "ถ้าคุณพูดอะไรแบบนี้อีก ผมจะไม่สนใจคุณอีกต่อไป"
"ก็ได้ ก็ได้" เธอยกมือขึ้นยอมแพ้ " แต่ต้องพาฉันไปกินข้าวที่ไหนซักแห่งแล้วคุยกันเกี่ยวกับหนังสือที่คุณแต่ง จูราสสิก ปาร์คมันยอดเยี่ยมจริงๆ มันทำให้ฉันกลายเป็นแฟนคลับชองเอริค วิลเลี่ยม "
เอริคกล่าว"หยุดก่อนดรูวส์ แม่คุณเห็นด้วยกับเรื่องนี้หรือยัง?"
"ผู้หญิงคนนั้น?"ดรูวส์แสดงสีหน้ารังเกียจ "ตราบใดที่เธอได้รับเช็คของฉัน เธอก็ไม่ได้สนใจ เรื่องส่วนตัวของฉัน แม้แต่น้อย"
ดูเหมือนดรูวส์จะมีอคติเกี่ยวกับแม่ของเธอเข้ากระดูกดำ ไม่แปลกใจเลยที่ในอดีตเธอตัดความสัมพันธ์ทั้งหมดกับครอบครัว
วันนี้เอริคมีฉากที่ต้องถ่ายหลายฉาก จนเขาแทบหมดแรง แม้ตอนนี้เขาจะยังมีร่างกายที่แข็งแรงก็ตาม
หลังเสร็จจากการทำงานยุ่งทั้งวัน เขาก็เดินอย่างเหน็ดเหนื่อยไปที่ลานจอดรถ ไม่นานนักเขาก็พบดรูวส์เดินตามมา
"เอริคคุณสัญญาแล้วว่าจะทานอาหารเย็นกับฉัน ฉันไม่อนุญาติให้คุณไปไหนทั้งนั้น"
เอริคหยุดเดินแล้วพูดว่า"ดรูวส์อย่าเข้าใจผิดสิ ผมไปสัญญากับคุณตอนไหนกัน ? นึกดูดีๆสิ"
"ไม่เอา" ดรูวส์รีบคว้าแขนของเอริค ท่าทางหยิ่งของเธอ ได้กลายเป็นท่าทางน่าสงสารทันที
"ฉันให้ผู้ช่วยของฉันกลับไปแล้ว คุณจะปล่อยให้เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างฉันกลับบ้านคนเดียวหรอ
ถ้าฉันเกิดถูกข่มขืนแล้วถูกฆ่าตายขึ้นมาจะทำไง ?"
เอริคได้พัฒนาความอดทนต่อดรูวส์มาโดยตลอด เขาบอกเธอโดยไม่ทุกข์ไม่ร้อนว่า "ไม่ คุณกลับบ้านคนเดียวเถอะ วันนี้ทำงานหนักมาทั้งวัน ผมอยากรีบกลับไปพักผ่อนเต็มทีแล้ว"
ดรูวส์ตระหนักว่าแผนของเธอล้มเหลวแล้ว เธอยกมือขึ้นขยี้หัวจนยุ่งและฉีกเสื้อผ้าออกเล็กน้อย
แล้วค่อยๆขูดผิวของเธอจนเป็นรอยแดง เธอหันไปมองเอริคพร้อมบีบน้ำตาแล้วพูดว่า
"ถ้าคุณไม่ยอม ฉันจะนั่งอยู่บนพื้นและตะโกนขอความช่วยเหลือ มาดูกันว่าตำรวจจะว่ายังไงกับคุณ"
เอริคตบหน้าผากของเขาแล้วกุมขมับตอนนี้เขากำลังถูกขู่
อมิตตาพุทธ ผมจะจัดการกับวิญญาณร้ายตัวนี้ได้ยังไง พระพุทธองค์กำลังทดสอบผมอยู่ใช่ไหม ?
เอริคเปิดประตูรถแล้วเข้าไปนั่ง เขาถามดรูวส์ "ก็ได้ เธอชนะ ดรูวส์ แล้วต้องการจะไปที่ไหน ?"
" ไปที่ Mastro’s ฉันอยากกินเสต๊ก"
"เข้าใจแล้วกัปตัน แล้วที่นั่นมันอยู่ที่ไหน ?"
ตอนแรกดรูวส์มองเอริคด้วยสายตาที่ดูถูก ก่อนจะเปลี่ยนเป็นตื่นเต้น "งั้นให้ฉันขับพาไปเอง"
"ไม่มีทาง ผมไม่อยากมีปัญหาทีหลัง รีบๆบอกที่อยู่ของที่นั่นมา ไม่งั้นผมจะสุ่มเอาสักร้าน"
ดรูวส์เม้มปากอย่างไม่เต็มใจและเอริคก็เริ่มออกรถ