px

เรื่อง : ข้าจะเป็นราชาอมตะ (นิยายแปล) ปลดล๊อคตอนฟรี 3 วัน 1 ตอน
ตอนที่ 2 : การทดสอบ


ตอนที่ 2 : การทดสอบ


โถงเงียบสนิทจนได้ยินเสียงหัวใจเต้น แม้แต่พวกพ่อแม่ก็ไม่กล้าจะพูดอะไรออกมา พวกเขากลัว กลัวว่าจะโดนหักมือกับเท้าโดย ถูเชิน ไม่แปลกเลยที่ หยางเฉิน จะตั้งชื่อให้อีกฝ่ายว่า ‘นักเชือด’


“ ขอบเขตกำลังภายในขั้น 9 นั้นเหมาะที่สุดที่จะพัฒนาร่างกาย มันคือพื้นฐานของผู้บ่มเพาะ การมีพื้นฐานะที่ดีถึงจะทำให้กลายเป็นคนที่แข็งแกร่งที่แท้จริงได้ ! ” ถูเชิน เดินไปมาตรงหน้าเด็กๆและมองไปโดยรอบ เด็กสาวต่างก็พากันกลัวเมื่อเห็นเขา
หยางเฉิน แอบสบถด่าอีกฝ่าย อีกฝ่ายนี่มองแต่ผู้หญิงชัดๆ


“ มันมี 8 ชั้นในตันเถียนของกำลังภายใน เมื่อดูดซับปราณจนถึงขีดจำกัดของขอบเขตกำลังภายในแล้ว ปราณจะบีบตัวออกมาผ่านชั้นกั้นระหว่างขอบเขต หากไม่อาจจะทะลุชั้นนั้นได้ งั้นก็ยังเป็นแค่คนทั่วไป ”  พูดไปแล้ว ถูเชินก็มองไปที่ หยางเฉิน และเด็กๆคนอื่นต่างก็พากันมองตาม


‘ บัดซบ ! ถูเชิน ! ไอ้แก่นักเชือด ! ’  แม้ว่า หยางเฉินจะแสดงท่าทีเฉยเมยแต่ในใจเขานั้นกลับสบถด่าถูเชินอยู่
แน่นอนว่าถูเชินไม่รู้ว่า หยางเฉินน่ะด่าเขาอยู่ เขายังเดินไปมามือไขว้หลังและพูดต่อไป

 

“ หลังจากที่ทะลวงผ่านแต่ละชั้นได้ ความแข็งแกร่งของร่างกายจะเปลี่ยนไปอย่างมาก พวกเจ้าอาจจะแกร่งขึ้นจนทำลายหินได้ด้วยมือเปล่า ”


พูดไปแล้ว ถูเชิน ก็โบกมือเรียกชายหนุ่มสองคนที่มุมห้องเข้ามา “ เอาหินเพชรทั้งหมดมา ”


หินเพชรคือหินที่มีอยู่จำนวนมากในที่ราบกลาง มันแข็งแกร่งอย่างมาก มันคือหินที่ใช้ทดสอบความแข็งแกร่งของร่างกายกำลังภายใน พลังนั้นจะถูกตัดสินตามจำนวนหินที่โดนทำทลายไป


ครืน ครืน


ชายหนุ่มทั้งสองได้พากันแบกหินเพชรหลายร้อยก้อนเข้ามาและวางไว้ใจกลางห้องโถง หินแต่ละก้อนนั้นสูงกว่า 1 ม.และกว้าง 0.5 ม.


“ ขอบเขตกำลังภายในนั้นสามารถทำลายหินได้แค่ก้อนเดียว บางคนที่มีพรสวรรค์จะทำลายหินได้ 3 ก้อน เด็กพวกนี้ถือว่ามีพรสวรรค์อย่างมาก เรียกกันในชื่ออัจฉริยะ มันจะมีคนในนิกายและประเทศต่างๆรับตัวไปดูแล ”  ถูเชิน มองไปที่ หยางเฉิน อีกครั้งด้วยสายตาสงสาร


เมื่อเห็นสายตาของ ถูเชิน รอยยิ้มไม่พอใจของ หยางเฉินก็หายไปและถูกแทนที่ด้วยความขมขื่นแทน สายตาหลายร้อยคู่มองมาที่ หยางเฉิน บางสายตาสงสาร บางสายตาเยาะเย้ย


“ พี่เฉิน...” เว่ยหยานหลาน แสดงสายตาสงสารออกมา


“ สำหรับขอบเขตกำลังภายใน แต่ละชั้นนั้นสามารถทำลายหินได้แค่ 1 ก้อน ต้องบอกว่าเมื่อถึงขั้น 9 แล้วจะทำลายหินได้มากสุด 9 ก้อน เหนือกว่านี้พวกเจ้าจะได้รับการประเมินค่าไว้สูงโดยประเทศและนิกายต่างๆ  ”  ถูเชิน มองไปรอบๆ “ ข้าหวังว่าก่อนที่พวกเจ้าจะอายุ 17 ปี พวกเจ้าจะก้าวข้ามระดับนี้ได้และสร้างความภูมิใจให้กับเมืองซูเซียน ! ”


ขอบเขตกำลังภายในขั้น 9 ทำลายหินได้ 9 ก้อนก็ถือว่ามีพลังก้าวขึ้นไปขอบเขตธุลีแล้ว แน่นอนสำหรับเด็กๆทั่วไป
เด็กบางคนมีพรสวรรค์ แค่ขั้น 1 พวกเขาก็ทำลายหินได้ 2-3 ก้อนแล้ว มันเทียบได้กับคนขั้น 2-3 เมื่อถึงขั้น 2 พวกเขาก็สามารถทำลายหินได้ 3-4 ก้อน...เมื่อถึงขั้น 9 พวกเขาจะทำลายหินได้มากกว่า 10 ก้อน พวกนี้ถูกเรียกว่าพวกมีพรสวรรค์ !


“ โมโก ออกมา ”


ทันทีที่ ถูเชิน พูดจบ ชายหนุ่มในชุดดำคิ้วราวกับดาบท่าทีเย็นชาดูโดดเด่นก็ได้ก้าวออกมาจากฝูงชน เด็กหนุ่มผู้นี้อยู่ในชุดรัดรูป แม้ว่าอายุจะดูพอๆกับ หยางเฉิน แต่เขาก็สูงกว่า 1.75 ม.


คนแบบนี้ล้วนแต่ตกเป็นเป้าสายตาไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ตาม แน่นอนว่าหยางเฉินไม่ได้สนใจอีกฝ่าย เขาเอาเวลานี้ไปดูสาวๆจะดีกว่า


หลังจากที่ โมโกเดินออกมา ชายหนุ่มสองคนก็พากันขนหินออกมาวางทั้งหมด 10 ก้อน


“ ปีที่แล้วตอนที่เขาอยู่ขอบเขตกำลังภายในขั้น 8 โมโก ทำลายหินได้ 9 ก้อน ดูเหมือนว่าปีนี้เขาจะพัฒนาขึ้นมาถึงขั้น 9 ได้ พวกเจ้าคงรู้แล้วโมโกอยากทดสอบทำลายหิน 10 ก้อน ”


“ ใช่ โมโกเป็นอัจฉริยะอันดับสามของเมืองซูเซียน ”


“ อันดับสาม ...”   โมโก ที่ยืนอยู่ใจกลางห้องได้ยินแบบนั้นก็ฮึดฮัดออกมา เขาไม่เต็มใจที่จะเป็นอันดับสาม


หยางเฉิน หันไปมอง เว่ยหยานหลาน และถามขึ้นมา  “ หลานเอ๋อ เจ้าสองคนนั่นไปไหนแล้ว ? เจ้าเห็นพวกนั้นรึไม่ ?”


“ พี่เฉิน เจ้าเองก็เป็นเด็กเช่นกัน ทำไมเจ้าถึงเรียกคนอื่นเช่นนั้น ? ”

 

 เว่ยหยานหลาน แสดงท่าทีโกรธและแปลกใจออกมา  “ หลานเอ๋อ ไม่รู้ว่าพวกเขาไปไหนกัน ”


“ พวกเด็กนี่ ”  หยางเฉิน ลูบจมูกแล้วพูดขึ้น 

 

“ หากพวกเขายังไม่มา เจ้านักเชือดนั่นจะหักมือกับเท้าพวกนั้นแน่ เฮ้อ เจ้าบ้านี่ยิ่งชอบรังแกเด็กอยู่ ”


แกร๊ก....ในห้องโถงกลับมีเสียงหินแตกดังขึ้นมาทั้งหมด 10 ครั้ง หยางเฉิน ต้องอุดหูตัวเองแล้วสบถในใจ

 

‘ เจ้าบ้านี่ไม่คิดเตือนใครเลยรึไง ไม่งั้นฉันคงเตรียมตัวไว้ก่อนแล้ว ’


แค่ลงมือครั้งเดียว โมโก ก็ทำลายหินได้ 10 ก้อน  โมโก ได้กลายเป็นที่สนใจของสาวๆทันที แม้แต่ ถูเชิน ก็ยังตาเป็นประกายไปด้วย


“ ดี ดี ! “ การที่ได้คำชมจาก ถูเชิน นั้นแสดงให้เห็นแล้วว่า โมโก นั้นยอดเยี่ยม


“ ครูฝึกถู ข้าอยากลองอีกครั้ง “ โมโก พูดขึ้นมาเสียงดังก้องไปทั่วห้องโถงทำให้เหล่าสาวๆพากันตื่นเต้นจนไม่อาจจะเก็บอาการได้ พวกนางเกือบจะโห่ร้องออกมา


‘ พวกผู้หญิงโง่เง่า ! ’  หยางเฉิน แอบสบถในใจ โชคดีที่สาวงามข้างกายเขาไม่ได้สนใจ โมโก ไปด้วย เขาถึงกับแอบยิ้มในใจ

 

‘ หลานเอ๋อ นี่ฉลาดจริงๆที่ไม่หลงใหลคนแบบนั้น ’


“ ก็ได้ เพิ่มอีก 1 ก้อน ”   ถูเชิน ชื่นชม โมโก มากขึ้นเรื่อยๆ พรสวรรค์แบบนี้หาได้ยากโดยเฉพาะในเมืองเล็กๆแบบนี้ถือ เขาว่าเป็นสมบัติล้ำค่า


“ ครูฝึกถู ข้าขอเพิ่มอีกก้อน ! ”   โมโก มองไปที่ ถูเชิน ด้วยสีหน้าแน่วแน่ คำพูดของเขาทำให้ทุกคนพากันหน้าเปลี่ยนสี การเพิ่มหินอีกก้อนเท่ากับหิน 12 ก้อน เด็กนี่คิดว่าตัวเองแกร่งขนาดนั้นเลยรึไง !


“ 12 ก้อน....”  ถึง หยางเฉิน บอกว่าไม่ได้ใส่ใจแต่เขาก็ยังแอบสนใจอยู่ ยังไงซะหากเป็นตัวเขาเองเขาก็คงไม่ยอมแพ้ เขามีจิตใจที่เข้มแข็ง เขาหยางเฉิน จะไม่ยอมเป็นคนอ่อนแอ เขาจะไม่ยอมเป็นคนธรรมดาเด็ดขาด


ถูเชิน ชื่นชม โมโก มากขึ้นไปอีกและหัวเราะออกมา “ ได้ 12 ก้อน ! ”  ด้วยคำสั่งของเขา ชายหนุ่มสองคนก็ได้เพิ่มหินเข้ามาอีกก้อน


โมโก มองไปที่ หยางเฉิน ด้วยสายตาเยาะเย้ย เมื่อเขามองไปยัง เว่ยหยานหลาน สายตาก็แสดงความหลงใหลออกมา สุดท้ายเขาก็มองไปยังหินทั้ง 12 ก้อนตรงหน้า


“ ข้ายังไม่ทันได้พูดอะไรสักคำ...”  หยางเฉิน ลูบจมูก เขาไม่ได้ทำตัวโดเด่นอะไรแต่ปัญหาก็วิ่งหาเขาอยู่เสมอ


ด้วยความอิจฉาที่มีต่อ หยางเฉิน โมโก ได้ระบายความหงุดหงิดทั้งหมดเข้าใส่หิน ! แกร๊ก.....เมื่อได้รับพลังที่สะท้อนกลับมา โมโก ก็ถอยกลับมาครึ่งก้าว หินทั้ง 12 ก้อนตรงหน้าเขากลับพังทลายลงไปทั้งหมด


ทุกคนพากันกลั้นหายใจ สมกับเป็นอัจฉริยะจริงๆ !


ถูเชิน ยิ้มออกมา เขาแอบโล่งอก นี่คือความหวังของเมืองซูเซียน มันไม่เหมือนกับเจ้าเด็กที่มีแต่ลอยยิ้มเจ้าเล่ห์นั้น  นั่นคือความอับอายของเมืองซูเซียน


โมโก เดินไปที่มุมห้องโถงด้วยท่าทีหยิ่งทะนง อัจฉริยะทุกคนล้วนแต่จะแสดงสีหน้าเย็นชาเพื่อบอกว่าเขาน่ะเป็นอัจฉริยะ


“ หยางเฉิน ต่อไปตาเจ้า ข้าเห็นว่าเจ้าเริ่มอดทนไม่ไหวแล้ว ”  เมื่อเห็นท่าทีเกียจคร้านของ หยางเฉิน  ถูเชิน ก็สีหน้าแข็งทื่อไป เขาอยากเตะตูด หยางเฉิน จริงๆ  !


“ ข้ารึ ?”  หยางเฉิน ยิ้มแห้งๆออกมา ภายใต้สายตาประหลาดใจของทุกคน เขาก็ได้เดินไปยังใจกลางห้องด้วยท่าทีเกียจคร้าน


“ ยังอยู่ขอบเขตกำลังภายในขั้น 1 เจ้าอยากทดสอบกี่ก้อนกัน ?”  ถูเชิน ถามออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา


‘ ไอ้แก่นักเชือด เจ้าก็รู้ดีอยู่แล้วว่าข้ามีความสามารถเท่าไหร่กัน แทนที่จะคิดแทนข้าแต่กลับมาถามข้าว่าจะใช้หินกี่ก้อน ฮึ่ม ! ใช้หัวคิดหน่อยสิ ’  หยางเฉิน แอบสบถในใจและมองไปยังกองหินที่อยู่ไม่ไกลนัก “ ยังไงก็ได้ ”


“ ยังไงก็ได้รึ ?”  เมื่อได้ยินคำพูดของ หยางเฉิน บางคนก็เหงื่อตกแทนเขากังวลว่า ถูเชิน จะหักมือกับเท้าของเขา เขายังทำตัวสบายอยู่ได้ เขามีความกล้าแค่ไหนกัน ?


ถูเชิน เบิกตากว้าง มือที่ไขว้หลังนั้นกำแน่น เขาอยากจะต่อยไอ้เด็กนี่แต่ก็ต้องเก็บอาการเอาไว้แล้วพูดขึ้นมาช้าๆ “ สามก้อน ! ”
ภายใต้คำสั่งของ ถูเชิน ชายหนุ่มสองคนก็ได้เอาหินออกมา 3 ก้อนมาตั้งไว้ตรงหน้า หยางเฉิน


หยางเฉิน ถูกหมัดแล้วก้าวออกมาต่อยเข้าไปสุดแรงเข้าใส่หินตรงหน้า หินก้อนหนึ่งได้แตกออกพร้อมกับรอยร้าวที่กระจายออกไปอย่างต่อเนื่อง


ขอบเขตกำลังภายในขั้น 1 ทำลายหินได้ 3 ก้อน หาก หยางเฉิน ไม่ติดอยู่ขั้น 1 มา 9 ปี งั้นอัจฉริยะอย่าง โมโก ก็ยังไม่อาจจะเทียบเขาได้  เว่ยหยานหลาน ที่อยู่ไกลออกไปได้แต่เผยสีหน้าขมขื่นออกมา


โมโก ที่ยืนพิงกำแพงอยู่นั้นเห็นสีหน้า เว่ยหยานหลาน ก็กำหมัดแน่นจนกระดูกลั่น เขาพึมพำออกมาเบาๆ “ เจ้าขยะนั่นมีสิทธิ์อะไรที่ได้นางไปครอง ”


“ หากเจ้าไม่ทดสอบแล้วก็ไปได้แล้ว ”  ถูเชิน มองไปที่ หยางเฉิน เขามองไปรอบๆก่อนที่สุดท้ายจะมองไปยัง เว่ยหยานหลาน และคิด   ‘ นางก็อยู่ที่นี่ด้วยรึ ? ทำไมนางถึงมาคนเดียว ? แล้วเด็กสาวอีกคนล่ะ ? เฮ้อ ช่างเถอะ ปีที่แล้วสองคนนั่นทำลายหิน 10 ก้อนได้แล้ว ปีนี้ไม่จำเป็นต้องทดสอบอีก เฮ้อ...แล้วไอ้เด็กนั่นก็ไม่มาด้วย เฮ้อแต่ก็พอเดาออกอยู่แล้ว หยางเฉิน, ไอ้เด็กตัวเหม็น น่ะคงอยู่ขอบเขตกำลังภายในไปตลอด ’


แน่นอนว่า หยางเฉิน ไม่ได้ทดสอบอีก เขาลูบจมูกแล้วยิ้มออกมาก่อนจะเดินไปหา เว่ยหยานหลาน
ต่อมาเด็กทุกคนก็ได้เข้ารับการทดสอบ ยกเว้นแค่ เว่ยหยานหลาน นางไม่ต้องทดสอบอีก มีแค่สองคนที่ไม่ต้องทดสอบ


รีวิวผู้อ่าน