ตอนที่ 5 ทางเลือกที่แตกต่าง
‘ ยิ่งแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ การพัฒนาให้แข็งแกร่งและเก่งขึ้น ก็ยิ่งยากขึ้น ! ” ลู่ฟงคิดใคร่ครวญดู
‘ สำหรับเรา การที่จะเพิ่มความเร็วจาก 23.8 เมตร/วินาที เป็น 25 เมตร/วินาที ก็อาจจะใช้เวลาอีกราวหนึ่งปี จะเพิ่มความแข็งแกร่งจาก 809 กิโลกรัม เป็น 900 กิโลกรัม จะต้องใช้เวลามากกว่าหนึ่งปี สงสัยว่าต้องรอจนกว่าจะเข้าวิทยาลัยถึงจะก้าวไปสู่ระดับ ‘ นักสู้ ’ ได้ ’
‘ แต่ถ้า หากเราเกิดอาการหมดสติอีกครั้ง สมรรถภาพทางร่างกายของเราอาจจะพัฒนาเข้าถึงระดับ ‘ นักสู้ ’ ก็ได้นะ ’
แน่นอนว่า อาการหมดสตินั้นไม่ได้เกิดจากการถูกทำร้าย จนหมดสติ หากแต่เกิดจากการปวดหัวขั้นรุนแรงมาก
ลู่ฟงมีอาการปวดหัวเสมอ
แม้ว่าลู่ฟงจะเกิดอาการปวดหัว แต่เขาก็สามารถทนกับความเจ็บปวดนั้นได้ จนกระทั่งมันจางหายไป
แต่บ่อยครั้งมันก็ปวดมากจนกระทั่งเขาหมดสติ
ลู่ฟงเคยหมดสติมาแล้วสองครั้ง
เมื่อตอนที่ ลู่ฟง อายุ 8 ขวบ ในครั้งนั้น น้องชายของเขาเกิดอุบัติเหตุ เขาเศร้าเสียใจมากจนเกิดอาการ
ปวดหัว ตอนนั้นเองจังหวะการเต้นหัวใจของเขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เลือดสูบฉีดจำนวนมาก
จนเขารู้สึกราวกับว่าหัวใจของเขาพุ่งออกมาจากหน้าอก เขาค่อยๆ หมดสติในช่วงเวลาต่อมา
อีกครั้งเกิดขึ้นเมื่อ ลู่ฟง อายุย่างเข้า 12 ปี ช่วงนั้น แม่ของเขาเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล เขากลัวที่จะต้องสูญเสียแม่ไป ลู่ฟงตกใจและปวดหัวอย่างหนัก ซึ่งก็เหมือนครั้งก่อน หัวใจของเขาเต้นอย่างรุนแรง
และเขาก็หมดสติในเวลาต่อมา
หลังจากอาการหมดสติทั้งสองครั้ง ครอบครัวของลู่ฟงได้พาเขาเข้าโรงพยาบาลเพื่อตรวจเช็คอาการโดยละเอียด ปรากฏว่าไม่พบอาการของโรคแทรกซ้อนใดๆ แม้ในยุคนี้เรื่องเกี่ยวกับสมองก็ยังคงเป็นที่ละเอียดอ่อนทางวงการแพทย์
‘ อาการโคม่าทั้งสองครั้งที่ผ่านมา ทำให้ร่างกายของฉันแข็งแกร่งขึ้นหลายเท่า ’ ลู่ฟงคาดคิดในใจ
‘ ตอนอายุ 8 ปี และ 12 ปี หลังจากที่เราฟื้นจากอาการโคม่า ความแข็งแกร่ง ความเร็ว
และอัตราการตอบโต้ พัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทำให้เราข้ามผ่านการทดสอบ จนได้ระดับขั้นกลางมาครอบครอง ต้องขอบคุณยีนของเรา ที่ทำให้เราก้าวมาถึงระดับขั้น ‘ ผู้นำ ’ ได้ในอายุ 17 ปีเท่านั้น ’
‘ ถ้าเราหมดสติอีกครั้ง สามารถเดิมพันได้เลยว่าความแข็งแกร่งของเราต้องเพิ่มมากกว่านี้อีกหลายเท่าอย่างแน่นอน ! ’
การหมดสติ เป็นอาการของทางร่างกายที่เกิดขึ้นเพื่อปกป้องร่างกายของตนเอง ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องที่แย่มากนัก
‘ หัวคงจะปวดจนแทบระเบิด และถึงขีดจำกัดของมัน รวมถึงหัวใจที่ต้องสูบฉีดเลือดเร็วขึ้นจนเกินขีดจำกัดเช่นกัน ’
ลู่ฟง หันไปมองที่นาฬิกาข้อมือ นาฬิกานี้มีระบบตรวจ ‘ วัดชีพจร ’ ด้วย
‘ แม้ว่าเขาจะวิ่งอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ยังไงหัวใจก็ไม่เต้นสูงเกิน 120 ครั้งต่อนาที ’ ลู่ฟง มองไปที่นาฬิกาข้อมือของเขา ‘ แต่ถ้าชีพจรของเราเต้นถึงระดับ 200 ครั้งต่อนาทีได้ ก็อาจเป็นเรื่องดี ’ เพราะอาการขั้นต้นของการเข้าสู่อาการโคม่าจะเริ่มจากมีอาการปวดหัวอย่างรุนแรง และมีการเต้นของหัวใจที่สูงผิดปกติ
อย่างไรก็ดี
ไม่ว่าเขาจะออกกำลังหนักแค่ไหน หัวใจของเขาก็ไม่เคยเต้นสูงถึงระดับอาการโคม่าอีกเลย
ภายในศูนย์ฝึก โดโจ นั้น หยางวู่ หน้าโหดยืนอยู่ด้านหน้าเครื่อง ‘ ทดสอบความแข็งแกร่งของหมัด ’
เขาไม่ได้เครียดนัก แค่ต่อยมันเบาๆ สองถึงสามครั้ง ด้วยมือทั้งสองข้าง เกิดเสียง [ ผัวะ ][ ผัวะ ][ ผัวะ ]
ขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทันทีที่เขาต่อยไปที่เครื่อง ตัวเลขปรากฏที่หน้าจอ ----“ 956 กิโลกรัม, 912 กิโลกรัม, 936 กิโลกรัม, 981 กิโลกรัม... ”
หยางวู่ ชกไปอีก สองถึงสามครั้ง ก่อนที่จะหยุด
ลู่ฟงซึ่งยืนมองอยู่ข้างๆ แอบชื่นชมอยู่ในใจ พลังเต็มที่ของเขาน่าจะอยู่ที่ 809 กิโลกรัม แต่ พี่หยางสามารถปลดปล่อยพลังหมัดที่รุนแรงกว่า 900 กิโลกรัม ได้อย่างง่ายดาย แต่สำหรับเขาแล้วการที่จะผ่านระดับ 700 กิโลกรัมก็ยากมากแล้ว
“ พี่หยาง ถ้าหมัดของผมสามารถต่อยได้แรงเหมือนหมัดของพี่ก็คงจะดี ” ลู่ฟงหัวเราะขึ้น
“ นายนี่นะ ” หยางวู่ เดินตรงมาหาลู่ฟงพร้อมกับต่อยไปที่ไหล่ของลู่ฟงพลางหัวเราะขึ้น “ นายพึ่งจะอายุ 19
ในปีนี้ หรือว่า 18 ปี เมื่อตอนที่พี่อายุเท่านาย พี่ยังอยู่ในระดับปานกลางเท่านั้น แต่กับนายมันต่างกัน
ระดับการพัฒนาของนาย สามารถพัฒนาไปถึงระดับ ‘ นักสู้ ’ ได้ภายในสองปีอย่างแน่นอน ฮ่า ฮ่า
นายสามารถเป็นนักสู้ในวัย 20 ปีได้เลยนะ น่าอิจฉามากจริงๆ ”
ลู่ฟงหัวเราะขึ้น
ผู้ฝึก โดโจ จะมีนักเรียนที่มีอายุตั้งแต่ 16 - 30 ปีเท่านั้น เพราะเป็นช่วงที่ทุกคนสามารถฝึกฝนได้อย่างรวดเร็วที่สุด สามารถที่จะเข้าสู่ระดับที่แข็งแกร่งได้อย่างรวดเร็วและสามารถพัฒนาความแข็งแกร่งได้ดีขึ้นในอนาคต ลู่ฟงได้เป็นสมาชิกระดับผู้นำ ตั้งแต่อายุ 17 เท่านั้น ถือว่าอายุน้อยมาก จึงเป็นที่ชื่นชมของหลายๆคน
“ โอ้ เจ้าตัวแสบ นายกำลังจะมีสอบที่โรงเรียนใช่ไหม ? จะทำอะไรต่อไป หลังจบแล้ว ? ” หยางวู่ ถาม
“ ผมว่าจะเข้าสถาบันทางทหารครับ ” ลู่ฟงหัวเราะเบาๆ
“ คนทั่วไปที่สมัครคงได้เป็นเจ้าหน้าที่ชั้นต้นๆในหมู่ทหาร แต่ผมน่าจะสามารถเข้าไปในกองกำลังหน่วยรบพิเศษหลังเรียนจบได้ ”
“ โอ้ ”
หยางวู่ ฟังแล้วยิ้มเล็กน้อย “ จะเข้าสถาบันทางทหารก็ดี แต่ความเป็นอิสระของนายจะถูกจำกัดที่นั่น หลังจากเรียนจบแล้ว เมื่อเข้ากองกำลังหน่วยรบพิเศษ นายจะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบทุกอย่าง
แบบพี่คงทำไม่ได้แน่ พี่คิดว่าเป็นนักสู้อิสระน่าจะเหมาะกว่า ”
“ นักสู้อิสระ ก็ดีครับ ” ลู่ฟงพยักหน้า “ แต่ ผมไม่อยากให้พ่อแม่ต้องกังวลใจ หากผมสามารถเข้าร่วมกับกองทัพได้ จะมั่นคงและปลอดภัยกว่า ”
ปกติแล้วการเป็นนักสู้จะมีหนทางให้เลือกอยู่สี่หนทาง
หนทางแรก [ เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับกองทัพ ทางเลือกนี้จะมั่นคงและปลอดภัยที่สุด ทางประเทศคงไม่ยอมปล่อยให้นักสู้ตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายมากนัก และจะมีสิทธิประโยชน์ให้กับครอบครัวนักสู้ เพื่อให้นักสู้ทั้งหลายมีกำลังใจ ]
หนทางที่สอง [ เข้าร่วมกับ ศูนย์โดโจ ศูนย์โดโจจะมีข้อกำหนดต่างๆ ค่อนข้างน้อยกว่า และมีกลุ่มสังคมที่ค่อนเปิดกว้าง อย่างที่ ‘ โดโจ ไฟท์ ’ แห่งนี้ได้ถูกสร้างจากผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก ( ‘ ฮง ’ ) การที่จะได้เป็น
‘ นักสู้ ’ ในโดโจก็จะได้ประโยชน์บางประการ เพราะที่นี่ไม่ได้มีข้อจำกัดหรือกฎอะไรมากนัก จึงค่อนข้างที่จะมีอิสระพอควร ]
หนทางที่สาม [ เข้าร่วมกับกลุ่มธุรกิจขนาดยักษ์ เข้าเป็นสมาชิกในตระกูลใหญ่, หรือเข้าร่วมกับพรรคการเมือง หรือแม้กระทั่งรวมกลุ่มเป็นแก๊ง ]
หนทางที่สี่ [ เข้าร่วมกับองค์กรทางการค้า ซึ่งจะมีอันตรายตลอดทุกช่วงเวลา แต่มันก็ให้อิสระมากกว่าหนทางอื่นๆ ]
“ เข้าร่วมกับกองทัพมันจะปลอดภัยมาก แต่พี่ไม่อยากใช้ชีวิตทุกวันโดยไม่มีอิสระ ” หยางวู่ กล่าว
“ ในปีนี้ พี่อาจจะผ่านการทดสอบระดับ ‘ นักสู้ดาวรุ่ง ’ ถ้าผ่านแล้วพี่ก็จะสามารถลงทะเบียนสอบระดับ
‘ นักสู้ ’ ทันที เพื่อที่จะได้เป็นนักสู้เต็มตัวเสียที ”
ตาของลู่ฟง เป็นประกาย “ พี่หยาง พี่มั่นใจว่าจะผ่านการทดสอบระดับนักสู้ดาวรุ่งได้จริงๆเหรอ ? ”
“ ฮ่าฮ่าฮ่า ” หยางวู่ หัวเราะ “ พี่ผ่านเกณฑ์เรื่องความแข็งแกร่งและอัตราการโต้ตอบมานานแล้ว มีแต่ด้านความเร็วที่พี่ยังต้องพัฒนา แต่ว่าในช่วงที่สภาพสมบูรณ์ พี่ก็น่าจะสามารถไปได้ถึงระดับ 25 เมตร/วินาทีได้ อีกอย่างพี่คิดว่า หากฝึกซ้อมอีกไม่นาน ก็น่าจะผ่านการทดสอบได้ ”
“ ยินดีด้วย พี่หยาง ” ลู่ฟง มีความสุขเมื่อได้ยิน หยางวู่ พูดแบบนั้น “ แล้วพี่จะทำอะไรต่อไปเมื่อพี่ได้เป็นนักสู้แล้ว ”
“ แน่นอนว่าต้องเลือกเข้าร่วมกับ โดโจ ไฟท์ แห่งนี้ล่ะ ” หยางวู่ หัวเราะ
“ โดโจ ไฟท์มีกฎที่ค่อนข้างเปิดกว้าง และมีสาขาอยู่ทั่วโลก นักสู้ที่มีชื่อเสียงหลายคนก็ล้วนแล้วแต่พัฒนาฝึกฝนมาจากโดโจแห่งนี้ทั้งสิ้น และเมื่อไหร่ก็ตามที่พี่รู้สึกอยากพัก พี่ก็สามารถออกไปฆ่าพวกสัตว์อสูรข้างนอกได้ มันค่อนข้างจะมีอิสระมาก ”
ลู่ฟง พยักหน้า
“ เจ้าตัวแสบ ” หยางวู่ มองไปที่ลู่ฟง “ นายก็มีความสามารถนะ พี่มั่นใจว่านายจะเหมาะสมกับการเป็น
นักสู้อิสระมากกว่า เข้าร่วมกับ โดโจ ไฟท์ แห่งนี้สิ ที่แห่งนี้จะสามารถช่วยพัฒนาความสามารถของเราได้อีกมาก ”
“ ผม..... ” ลู่ฟง นิ่งเงียบ
หยางวู่สามารถเข้าใจได้ทันที “ เจ้าตัวแสบ นักสู้อิสระส่วนมากแล้วจะสู้เพื่อชีวิตของพวกเขาเอง
และส่วนใหญ่จะฝึกฝนอยู่ในช่วงความเป็นและความตาย แม้มันจะ อันตราย แต่ในเวลาเดียวกัน
เราต่อสู้เพื่อตัวเราเอง มันจึงง่ายในการพัฒนาความแข็งแกร่งของเราให้มากขึ้น ! นายก็เห็น
ไม่ว่าจะที่ไหนก็ตาม นักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดส่วนใหญ่ก็ล้วนแล้วแต่เป็นนักสู้อิสระทั้งสิ้น ”
------
ในช่วงค่ำ ท้องถนนยังคงสว่างไสวไปด้วยแสงไฟ
ระหว่างเดินออกจาก โดโจ ไฟท์ ลู่ฟงหวนคิดถึงบทสนทนาระหว่างเขากับหยางวู่
‘ มีสองทางเลือกที่เหมาะกับเรา ’ ลู่ฟงคิด ‘ ทางหนึ่งคือเข้าร่วมกับสถาบันทางทหาร จบหลักสูตรแล้วเข้าร่วมเป็นหน่วยรบพิเศษ หรือจะเป็นนักสู้ที่มีชื่อเสียง ในโดโจไฟท์ และมีอิสระในการต่อสู้กับสัตว์อสูร ’
‘ ทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุดก็คือเข้าร่วมกับกองทัพ ครอบครัวของฉันจะได้ประโยชน์ด้วย
ถึงแม้ว่าฉันอาจจะเสียชีวิต แต่ประเทศก็จะดูแลคนในครอบครัวของฉันเป็นอย่างดีแน่นอน ’
‘ เป็นนักสู้อิสระ สู้และใช้ชีวิตอยู่บนเส้นทางเห่งความตาย แม้จะทำให้ฉันแข็งแกร่งอย่างรวดเร็ว
และฉันสามารถที่จะแลกเปลี่ยนสัตว์อสูรที่ฉันฆ่า เป็นเงินได้จำนวนมาก เพียงแต่หนทางนี้ อันตรายยิ่งนัก แม้ทักษะของฉันจะเพิ่มขึ้น มีเงินที่มากมาย มีอิสระ แต่ก็มีอันตราย ’ ลูฟง พยายามตัดสินใจ ที่จริงเขาเคยคิดเรื่องนี้มาก่อนแล้วตั้งแต่เขาเริ่มเข้าสู่มัธยมปลาย
‘ พ่อแม่มีลูกสองคน อีกทั้งน้องชายคนเล็กก็พิการ ถ้าฉันเป็นนักสู้อิสระแล้วเสียชีวิตในสนามรบ
พ่อแม่จะอยู่ได้ยังไง ? ’
ลู่ฮัว ก็ต้องการใครสักคนช่วยดูแลเขา
‘ สงสัยว่า จะต้องสมัครเข้าสถาบันทางการทหารแล้วล่ะ ’
‘ หลังจากที่ฉันเข้าร่วมหน่วยรบพิเศษ ฉันก็จะสามารถที่จะเรียนรู้ ‘ ศิลปะการต่อสู้ทางทหาร ’ เมื่อนำมารวมกับ ‘ ศิลปะการต่อสู้ขั้นสุดยอด ’ จากโดโจ ไฟท์ ที่ฉันมี ฉันก็น่าจะเพิ่มความแข็งแกร่งได้
ในกองทัพฉันสามารถฝึกฝนด้วยตัวเองได้ แม้ว่าฉันจะตายในฐานะนักสู้ ประเทศก็จะให้บำนาญกับ
พ่อ แม่ทุกเดือน ’ หลังจากที่ลู่ฟง คิดอย่างรอบคอบ ลู่ฟงก็จะตัดสินใจเลือกสถาบันทางทหาร
อย่างไรก็ดี....
ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถเข้าสถาบันทางทหารได้ง่ายๆ ในการเข้าจะต้องผ่านเกณฑ์ที่กำหนด
ดังนั้นแล้วทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับการทดสอบช่วงเดือนมิถุนายนที่กำลังจะมาถึงเท่านั้น