px

เรื่อง : พ่อบ้านจักรพรรดิปีศาจ
ตอนที่ 26 คำเชิญ


หวีด!

 

เงาร่างหนึ่งปรากฏตรงหน้าทั้งคู่ มันคือหลงจิ่ว ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

 

“ใครกันที่ตั้งค่ายกลนี้?”

 

“เอ่อ มัน..”

 

ทั้งสองมองหน้ากันก่อนหลงเจี๋ยจะตอบ”พ่อบ้านของตระกูลลั่ว จั๋วฝาน!”

 

“ว่าไงนะ เขา?”

 

หลงจิ่วหันไปมองค่ายกลและยิ่งเขาตรวจสอบ เขาก็ยิ่งตกใจ”ผู้ใช้ค่ายกลต้องรู้จักค่ายกลแต่ละตัวเหมือนหลังมือตัวเอง ใช้เวลาหลายปีเพื่อทำความเข้าใจฟ้าดิน ด้วยวัยของข้า ข้าตั้งได้แค่ค่ายกลระดับสาม แต่เด็กอย่างเขากลับตั้งค่ายกลระดับห้าได้?”

 

หลงจิ่วดูเหมือนจะกำลังถามหลงขุ่ยกับหลงเจี๋ย แต่มันดูเหมือนเขากำลังถามตัวเองด้วย ทั้งสองทำได้แค่ส่ายหัว

 

มันไม่รู้ว่าจั๋วฝานเป็นคนแบบไหน เขายังคงสร้างเรื่องน่าตื่นตาตื่นใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า แม้กระทั่งทั้งสอง ผู้เกิดในตระกูลสูงส่งก็ไม่กล้าดูหมิ่นจั่วฝานอีก พวกเขายังรู้สึกด้อยกว่าด้วยซ้ำ

 

“ไปเรียกเด็กนั่นมา เอ่อ ไม่สิ เชิญเขามา ข้าอยากคุยกับเขา”หลงจิ่วยิ้มไม่หุบ

 

ทั้งสองประสานมือและทำตามคำสั่งเขา ไม่ช้า ศาลาในสวนหลังบ้าน หลงจิ่วกำลังรินชาบนโต๊ะหิน มันใช้เวลาไม่นานก่อนจั๋วฝานจะเดินมา ตามด้วยหลงเจี๋ยกับหลงขุ่ย

 

“ฮ่าๆๆ น้องชายจั๋ว เชิญนั่ง”หลงจิ่วหัวเราะขณะเชิญ

 

หลงเจี๋ยกับหลงขุ่ยตกใจ

 

น้องชายจั๋ว?

 

หลงจิ่วเป็นคนมีตำแหน่งสูงในตระกูล เช่นนั้น ทั้งสองจึงเรียกเขาว่าลุง แต่คนที่ภาคภูมิใจอย่างหลงจิ่วกลับเคารพคนแค่ไม่กี่คนในจักรวรรดิเทียนหวี่

 

แต่การเรียกเด็กคนนี้ว่า’น้องชาย’ทำให้ทั้งสองนิ่งงัน

 

จั๋วฝานก้าวเข้ามา นั่งอย่างไม่ลังเล ในสายตาเขา นี่คือโลกที่ผู้แข็งแกร่งได้รับความเคารพ ถ้ามีพลังพอ ตาแก่นี่ก็จะนับถือเขา

 

“ทำไมพี่ชายจิ่วถึงเรียกข้ามา?”จั๋วฝานไม่ใช่คนหัวรั้นและรินชาให้ตัวเอง เขาดูเหมือนจะไม่รู้จักคำว่า’หน้าด้าน’เลย

 

หลงขุ่ยไม่สามารถตอบสนองได้ หลงเจี๋ยกลอกตา สาปแช่งเขาว่าหน้าด้าน

 

แต่หลงจิ่วกลับมีความสุข ความสัมพันธ์ของพวกเขาดีขึ้นและนั่นเป็นเรื่องดีสำหรับเขา

 

“น้องชายจั๋ว ในเมื่อเจ้าเรียกข้าว่าพี่ชายจิ่ว ข้าก็จะไม่อ้อมค้อม ข้าจะพูดตามตรง สำหรับผู้ใช้ค่ายกลระดับห้าในตระกูลต่ำต้อยอย่างตระกูลลั่วนั้น มันถือว่าเสียเปล่า มันจะดีสุดถ้าเจ้าเข้าร่วมศาลาเฉียนหลง เราจะปฏิบัติกับเจ้าในฐานะปรมาจารย์ แม้กระทั่งผู้นำตระกูลก็ยังต้องแสดงความเคารพต่อเจ้า”

 

หลงขุ่ยกับหลงเจี๋ยไม่คิดฝันว่าหลงจิ่วอยากเชิญจั๋วฝานมาเป็นปรมาจาย์ของศาลาเฉียนหลง

 

นั่นคือสถานะที่สูงสุดในศาลาเฉียนหลง สูงยิ่งกว่าผู้อาวุโส เด็กที่หลังหูยังเปียกจะได้รับเกียรติเช่นนี้ได้อย่างไร?

 

แถม จั๋วฝานยังเป็นแค่ผู้บ่มเพาะกลั่นลมปราณ เจ็ดตระกูลใหญ่ถึงกับเชิญคนแบบนี้มาเป็นปรมาจารย์

 

การขอให้เขาเข้าร่วมศาลาเฉียนหลงก็เพื่ออนาคตของตระกูล

 

จั๋วฝานจิบชาด้วยรอยยิ้ม

 

เขารู้เจตนาของหลงจิ่วแต่แรกแล้ว ใครจะไม่ต่อสู้แย่งตัวผู้ใช้ค่ายกลระดับห้าบ้างในจักรวรรดิแห่งนี้?แม้กระทั่งจักรพรรดิก็ยังต้องแสดงความสุภาพต่อเขา

 

เขาเล็งเห็นสิ่งนี้ไว้แต่แรก

 

“น้องชายจั๋วจะว่ายังไง?”หลงจิ่วถามอีกครั้ง

 

จั๋วฝานยิ้ม”ข้ามีเงื่อนไขเดียว”

 

“ถ้ามันอยู่ในอำนาจของศาลาเฉียนหลง เจ้าจะขออะไรก็ได้”หลงจิ่วแสดงความยินยอม

 

“แม้กระทั่งให้นางมาเสิร์ฟชาข้า นวดเท้าข้า และอุ่นเตียงให้ข้างั้นหรือ?”จั๋วฝานชี้หลงขุ่ย

 

แก้มของหลงขุ่ยแดงด้วยความโกรธ”ฝันไปเถอะ”

 

หลงจิ่วจำต้องส่ายหัวด้วยความลำบากใจ”มันเป็นไปไม่ได้กับเสี่ยวขุ่ย”

 

“ฮ่าๆๆ ข้าแค่ล้อเล่น ข้ามีคุณหนูแล้ว ข้าจะมองคนอื่นไปทำไม?”ดวงตาของจั๋วฝานทอประกาย”ข้าอยากให้สองพี่น้องลั่ว...ปลอดภัยตลอดไป”

 

จั๋วฝานหยุด

 

หลงจิ่วแสดงความชื่นชม เขาไม่คิดว่าเงื่อนไขของจั๋วฝานจะแค่นี้ ความทุ่มเทดังกล่าวทำให้เกิดความเคารพจากคนสามคนรอบตัวเขา

 

แม้กระทั่งหลงขุ่ยก็ยังมองเขาในอีกด้าน

 

“ข้าตกลง ตราบเท่าที่ศาลาเฉียนหลงยังอยู่ ตระกูลลั่ว ไม่ใช่แค่รุ่นนี้เท่านั้น แต่ลูกหลานของตระกูลลั่วจะอยู่อย่างสงบสุขไปตลอด”

 

จั๋วฝานยิ้ม จิบชาอีกครั้ง

 

“งั้นจากนี้ไป เจ้าก็คือปรมาจารย์ของศาลาเฉียนหลง ข้าจะรายงานมันกับตระกูลและสามวันให้หลัง ข้าจะให้อาเจี๋ยพาเจ้าไปบ้านใหญ่”

 

“รอเดี๋ยว!”

 

จั๋วฝานยกมือขึ้น”ข้าไม่ตกลง”

“ว่าไงนะ?แต่ก่อนหน้านี้..”หลงจิ่วตื่นตระหนก”น้องชายจั๋ว เจ้าเล่นอะไร?”

 

จั๋วฝานใช้น้ำเสียงจริงจัง”ถ้ามันเป็น 15 นาทีก่อน ข้าคงตกลงไปโดยไม่ลังเล แต่ตอนนี้…”

 

“ตอนนี้?”หนวดเคราของหลงจิ่วสั่น

 

จั๋วฝานส่ายหัว ยิ้มอย่างลึกลับขณะที่เสียงเปลี่ยนเป็นเย็นชา”แม่นางหลง จำสิ่งที่ท่านพูดได้หรือไม่?”

 

จั๋วฝานกำหมัด”ภายในสิบปี ข้าจะทำให้ตระกูลลั่วยืนอยู่เหนือเจ็ดตระกูลใหญ่!”

 

เขากระดกชาจนหมด กระแทกถ้วยชากับโต๊ะก่อนจากไป

 

หลงขุ่ยมองตามเขาด้วยความรู้สึกแปลกๆ

 

มันเป็นไปไม่ได้สำหรับตระกูลเล็กที่จะเติบโตจนเหนือเจ็ดตระกูลใหญ่ในสิบปี ต่อให้เขาจะเป็นผู้ใช้ค่ายกลระดับห้าก็ตาม ตำแหน่งของเจ็ดตระกูลใหญ่ไม่ใช่อะไรที่เขาลำพังจะเอาชนะได้

 

แต่ความมั่นใจของจั๋วฝานก็ทำให้นางหวั่นใจ

 

“เสี่ยวขุ่ย เจ้าพูดอะไรกับเขา?”หลงจิ่วหันไปมองทั้งสอง จากสีหน้าของจั๋วฝาน เขารู้ว่าจั๋วฝานไม่ได้โกหก งั้นก่อนหน้าก็ต้องมีเรื่องเกิดขึ้น

 

หลงขุ่ยเอาแต่จ้องแผ่นหลังของจั๋วฝาน หลงเจี๋ยจึงพูดขึ้นแทน

 

หลงจิ่วส่ายหัวหลังได้ยิน”ข้าเฝ้าสอนเจ้าว่าอย่าดูถูกคนอื่น เจ้าดูถูกตระกูลลั่วและพวกเขาก็ต้องไม่อยู่เฉยแน่”

 

“แต่..สิ่งที่เขาพูดไม่มีวันเป็นไปได้”หลงเจี๋ยพึมพำ

 

หลงจิ่วลูบเครา”ตระกูลลั่วมีผู้ใช้ค่ายกลระดับห้า ต่อให้มันจะไม่เหนือกว่าเจ็ดตระกูลใหญ่ มันก็ยังเป็นที่รู้จักไปทั่ว มันดีกว่าที่จะตีสนิทกับพวกเขา”

 

“เราตีสนิทจนเกือบได้เขามาเป็นปรมาจารย์…”หลงจิ่วถอนหายใจ จ้องหลงขุ่ยเขม็ง

 

สำหรับจั๋วฝาน เขาเดินไปหาลั่วหยุนชาง แต่ความคิดกลับหมุนไม่หยุด

 

เขาสามารถทำให้มารหัวใจสงบได้อย่างสมบูรณ์ แต่เลือกไม่ทำเพราะคำพูดของหลงขุ่ย

 

[ฝัน?ถ้าเราไม่แม้แต่จะฝั่น ทางเลือกของเราก็ล้วนขึ้นอยู่กับโชคชะตา]

 

ผู้บ่มเพาะปีศาจเดินไปบนเส้นทางที่ท้าทายสวรรค์ สู้เพื่อชะตากรรมของตัวเอง จั๋วฝานจึงเกลียดมากตอนมีคนบอกเขาว่าเป้าหมายใดที่เขามีเป็นแค่ฝัน 

 

เขาต้องพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าแม้แต่ตระกูลล่มสลายก็สามารถไปถึงจุดสูงสุดได้สักวันหนึ่ง เขาไม่ได้ช่วยตระกูลลั่วแค่เพราะมารหัวใจอีก แต่เพราะเส้นทางของเขาในฐานะผู้บ่มเพาะปีศาจ

 

[ไม่มีอะไรในโลกนี้ที่เป็นไปไม่ได้!ถ้าสวรรค์ขวางทางข้า ข้าก็จะทำลายมัน ชะตากรรมของข้าขึ้นอยู่กับข้า ไม่ใช่สวรรค์]

 

วันนั้นจะมาถึงเมื่อเขาสร้างตระกูลล่มสลายให้กลายเป็นตระกูลที่ยิ่งใหญ่สุดในโลก!ตราบเท่าที่จักรพรรดิปีศาจ จั๋วอี้ฝานอยู่นี่ ก็ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้

ปัง!

จั๋วฝานกระแทกประตูด้วยความโกรธ

 

ลั่วหยุนไห่ ลั่วหยุนชาง กับหัวหน้าผางตกใจ ลั่วหยุนชางลังเลก่อนรวบรวมความกล้ามาพูดกับเขา”จั๋วฝาน ปู่จิ่วต้องการอะไร?”

“เขาเชิญข้าให้เข้าร่วมกับศาลาเฉียนหลง”

 

สีหน้าของทั้งสามสลดลง แม้จะรู้สึกท้อแท้ในใจ ลั่วหยุนชางก็ยังฝืนยิ้มออกมา”ยินดีด้วย ศาลาเฉียนหลงจะต้องมอบอนาคตแสนรุ่งโรจน์ให้กับเจ้ามากกว่าตระกูลลั่วเป็นแน่”

 

นางเดาได้ว่าพรสวรรค์ของจั๋วฝานในฐานะผู้ใช้ค่ายกลคงต้องตาเจ็ดตระกูลใหญ่ ตระกูลลั่วไม่มีทางรั้งคนแบบนี้เอาไว้ได้

 

จั๋วฝานตะคอก”ทำหน้าสลดทำไมกัน?ข้าปฏิเสธไปแล้ว”

 

“ว่าไงนะ?”

 

แม้จะตกใจ แต่ก็มีความสุข”ทำไม?”

 

“แค่เพราะ ข้าจะอยู่ในห้องข้า!”จั๋วฝานเดินหนีไปโดยไม่ตอบ แต่ก่อนเขาจะปิดประตู เขาก็พูดเสียงเย็น”คุณหนู อย่ายุ่งเกี่ยวกับเรื่องของตระกูลลั่วในอนาคตอีก ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่”

 

ลั่วหยุนชางพยักหน้าอย่างเหม่อลอย ทำไมเขาถึงพูดเรื่องนี้ขึ้นมา?

 

จากนั้นจั๋วฝานก็ดูเหมือนจะคุยกับนางแต่ก็ยังพูดกับตัวเองด้วย

 

“จากนี้ไป ข้าคือพ่อบ้านตระกูลลั่ว ในสิบปี ข้าจะพาตระกูลลั่วไปอยู่เหนือศาลาเฉียนหลง!”

 

เขาทิ้งคำพูดสุดท้ายไว้ให้ทั้งสามตกใจ...

รีวิวผู้อ่าน