px

เรื่อง : ร้านขายอสูรดวงดาว (Astral Pet Store)
ตอนที่ 1 ร้านขายอสูรดวงดาว


“พี่ชายสุดหล่อ ได้เวลาตื่นแล้ว”
เอ๊ะ

“ใครเรียกฉันว่าสุดหล่อ?”
“รอเดี๋ยว”
“ฉันนอนคนเดียวนี่?”

 

ด้วยความแปลกใจ ซูผิงรีบลืมตา หันไปมองทั่วห้อง เพียงแค่แวบเดียวก็ทำให้เขาเกือบตาย!

ผีที่มีเลือดไหลจากอวัยวะทั้งเจ็ดบนหน้ากำลังเอนพิงหมอนเขา ผีกำลังอ้าปากกว้างเผยให้เห็นฟันขาวน่าสยดสยอง

“อะไรวะ!!”

ซูผิงตบหลังมือใส่ผี

มือของเขาพุ่งผ่านหน้าผีและลงบนหมอกนุ่ม มันเหมือนการพัดอากาศ!

ผียิ้มและแลบลิ้นสีแดง

ซูผิงกลัว เขารีบหันหลังกลับและหนี แต่ทว่า เขาไม่สนใจเพราะความตื่นตระหนก มือเขาวางผิดและตกลงเตียงหน้ากระแทกพื้น

“เจ็บ!”
ซูผิงรู้สึกว่าจมูกเขาหัก ความเจ็บปวดทำให้เกิดอาการแสบร้อน

จากนั้นเขาก็รู้สึกเย็นไปทั่วตัวเมื่อคิดถึงผีตนนั้นอีกครั้ง

“อืม อุ้ฟ..”

ดูเหมือนมีคนกำลังพยายามกลั้นเสียงแต่ก็ล้มเหลว จากนั้นเสียงหัวเราะลั่นก็ดังจากด้านข้าง

ซูผิงตัวสั่นจากความกลัว ผีกำลังหัวเราะ?!

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า..ซูผิง พี่พยายามจะฆ่าฉันด้วยการหัวเราะงั้นหรอ?พี่ขี้กลัวอะไรขนาดนี้!”

เสียงหัวเราะมาจากด้านข้างห้อง

ซูผิงตกใจ

เขาหันไป

ที่ปลายเตียงมีเด็กหญิงน่ารักดวงตาสดใสและฟันขาวสวมชุดนอนสีส้มลายการ์ตูน เธอสวย แต่วินาทีที่เธอหัวเราะอย่างหนัก ความสวยก็ไม่มีอยู่อีก

 

“เกิดอะไรขึ้น?”
ซูผิงสับสน จากนั้นก็พลันสังเกตเห็นว่าสภาพแวดล้อมห้องเขาเปลี่ยนไป

สิ่งแรกที่กระโดดออกมาคือโปสเตอร์ขนาดใหญ่ของมอนสเตอร์บนกำแพงด้านหลังเด็กสาว นั่นคือปสเตอร์จากหนังบางเรื่อง

นี่ไม่ใช่ห้องเขา!

ซูผิงไม่มีนิสัยชอบแปะโปสเตอร์ในห้อง

ผีสาวอยู่ไหน?

เมื่อนึกถึง เขาก็รีบหันไปมองทั่ว

ไม่มีอะไรบนเตียง ผีหายไปแล้ว!

“ไปแล้ว?”

ซูผิงงุนงง ขณะที่กำลังจะถอนหายใจ

ทันใดนั้น เงาร่างสีดำก็พุ่งมาจากใต้ผ้าห่มเขา มันคือแมวดำ

มันเป็นการกลิ้งมากกว่ากระโจน แมวนั้นอ้วนจนเหมือนลูกบอล

“บอลหิมะ มานี่”เด็กสาวกล่าวกับแมวน้ำ

 

เมื่อได้ยินเสียงเธอ แมวดำก็ตะเกียกตะกายลุกขึ้น มันสะบัดขนเล็กน้อย เหลือบมองซูผิงและเดินไปทางเด็กสาวด้วยก้าวที่สง่างาม

บางทีเขาอาจคิดมากไป แต่ซูผิงคิดว่าเขากำลังถูกแมวดูถูก

ขณะนั้น ซูผิงก็พลันสังเกตเห็นเขาหลอมสองอันบนหัวแมวดำ มีขนสีแดงเข้มบนหน้าผากมัน สร้างเป็นบางสิ่งคล้ายเปลวไฟ

เครื่องหมายคำถามค่อยๆผุดเหนือหัวซูผิง

ปิ้ง!

ทันใดนั้น ราวกับมิติเวลาสั่นคลอน...

วิสัยทัศน์ของซูผิงเลือนราง เหมือนกระแสน้ำ ข้อมูลนับไม่ถ้วนไหลเข้ามาในหัวเขาจากทุกทาง

“ซูผิง?ซูหลิงเยวี่ย?”

“สัตว์เลี้ยงดวงดาว?”
“อีกโลก?”

 

ข้อมูลที่ไหลมาทำให้เขาสับสน ซูผิงรู้สึกว่าหัวเขากำลังจะระเบิดและความเจ็บปวดก็ยากเกินทน เขากัดฟันจนได้ยินเสียงฟัน

เขาไม่รู้ว่ามันนานแค่ไหนก่อนพายุข้อมูลจะค่อยๆสงบลง ความทรงจำบางส่วนนั้นผุดขึ้น

เขาถูกส่งมาอีกโลก..

ซูผิงได้สติ ไม่แปลกใจที่เขาจะอยู่ในห้องไม่คุ้นเคยกับเด็กสาวและแมวแปลกๆ

 

“แต่ฉันเพิ่งนอนขดตัวที่บ้านเพื่อนอน!ฉันถูกส่งมายังโลกอื่นแบบนี้ได้ยังไง?”
“เป็นเพราะฉันใช้มือเพื่อออกกำลังกายก่อนนอน?”

 

ภายใน ซูผิงขมขื่นมาก เขาเริ่มมองผ่านความทรงจำในหัว

“นี่คือโลกที่คล้ายกับโลก แต่เทคโนโลยีล้ำหน้ากว่า ได้เข้าสู่ยุคท่องอวกาศแล้ว เกินกว่าโลก ในเวลาเดียวกัน จุดสนใจที่นี่ไม่ใช่การพัฒนาทางเทคโนโลยี แต่เป็นอสูรดวงดาว!”
“อสูรดวงดาวมีเกรดหลากหลายและมีทุกอย่างเกี่ยวกับสังคมมนุษย์ มีค้างคาวเครื่องมือที่รับผิดชอบงานโครงสร้าง ขนส่งและทำงานในชีวิตประจำวัน แม้กระทั่งเป็นนักวิจัย!อสูรต่อสู้จะรับผิดชอบการสำรวจพื้นที่ใหม่ในหมู่ดาวและก็ยังให้การสนับสนุนในสงคราม พลังของอสูรคือปัจจัยชี้ขาด!”
“อสูรดวงดาว…”

 

ซูผิงจมในความทรงจำ ยิ่งเขารู้ เขายิ่งตกใจ จากนั้นก็เข้าใจว่าผีสาวคืออะไร

“อสูรต่อสู้ของตระกูลปีศาจ ความสามารถหลุดของอสูรไฟคือสร้างภาพลวงตาและควบคุมธาตุไฟ...”

อสูรไฟนี้คือแมวแปลกๆนั่น อสูรต่อสู้แสนดุร้ายของตระกูลปีศาจ นี่คือสัตว์เลี้ยงดวงดาวที่เก่งทั้งการควบคุมจิตและธาตุ เป็นชนิดหายากที่ต้องแลกด้วยแขนและขา!

ซูผิงไม่อยากเชื่อว่าน้องสาวเขาซูหลิงเยวี่ยจะใช้สัตว์เลี้ยงหายากเช่นนี้มาเพื่อหลอกเขาทุกวี่วัน...

เมื่อเขาค้นผ่านความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม ซูผิงพบว่าชีวิตเขาทั้งตลกและน่ารำคาญ พี่ชายและน้องสาวคู่นี้ทะเลาะกันประจำ ทั้งคู่ไม่มองเห็นหัวกันตั้งแต่เด็ก ตอนแรก ซูผิงคือคนที่มักรังแกน้องสาวเขา แต่ทว่า โต๊ะกลับพลิกเมื่อพวกเขาโตขึ้น มันคือคราวของซูผิงที่ต้องโดนแกล้ง

ต้นเหตุของการเปลี่ยนแปลงเพราะพวกเขาเข้าโรงเรียนต่างกันตอนอายุ12

หนึ่งในนั้นไปโรงเรียนการค้าทั่วไป

อีกคนไปสถาบันนักรบอสูรดวงดาว!

ในโลกที่ศูนย์กลางเป็นสัตว์เลี้ยง ไม่ใช่ทุกคนถึงสามารถเป็นนักรบอสูรได้ มีเพียงคนที่มีพรสวรรค์ตั้งแต่เกิดถึงสามารถทำสัญญากับอสูรดวงดาวได้!

มันกำหนดตั้งแต่เกิดว่าซูผิงไม่มีพรสวรรค์เช่นนั้น ซึ่งหมายความว่าเขาคือคนปกติ

แต่ ในวัยเด็ก พี่น้องคู่นี้ไม่เข้าใจแนวคิดนี้ ดังนั้น ซูหลิงเยวี่ยที่มีพรสวรรค์จึงมักถูกรังแกโดยซูผิง

เมื่อทั้งคู่ตระหนักถึงความแตกต่างระหว่างพวกเขา หายนะของซูผิงก็เริ่มขึ้น

น้องสาวเขาไม่ได้เอาคืนเบาๆ เธอเก็บความขุ่นเคืองใจไว้ทุกครั้งที่ถูกพี่ชายเธอรังแก เธอจึงตอบแทนเขาคืนหลายเท่าตลอดหลายปีที่ผ่านมา

ในปัจจุบัน ช่องว่างระหว่างพวกเขากว้างกว่าเดิม หนึ่งในนั้นคือสาวน้อยอัจฉริยะที่ลงทะเบียนเรียนในสถาบันชื่อดัง พร้อมอนาคตสดใสข้างหน้า อีกคนยังเข้ามหาวิทยาลัยทั่วไปไม่ได้ด้วยซ้ำ เขาต้องออกโรงเรียนมาเพื่อช่วยครอบครัวทำธุรกิจ

 

“อืม พี่ทำอะไรท่านั้น?พี่ไม่ได้หัวกระแทกใช่ไหม?”
ซูหลิงเยวี่ยรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติขณะจ้องซูผิงที่นั่งบนพื้น เธอขมวดคิ้ว จำได้ว่าเขาล้มหัวกระแทก

เธอไม่ได้กังวลถึงความปลอดภัยของซูผิง แต่พ่อแม่อาจตำหนิเธอได้

“เอ๊ะ?”
ซูผิงได้สติ เขามองเด็กสาวอวดดีที่ยืนเชิดหน้ากอดอก เขาไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับเธอ”อย่าเล่นแผลงๆแบบนี้อีก” ซูผิงอยากบอกแบบนั้น

 

เนื่องจากเขามายึดร่างนี้ เขาจึงไม่อยากถูกแกล้งอีก

ซูหลิงเยวี่ยผงะ

“ปกติเขาต้องกระโดดขึ้นและว่าฉันว่านังตัวร้ายนี่?”
“ทำไมวันนี้เขาถึงเงียบจัง?”
“หรือว่า..”
“เขาคิดว่าฉันจะใจอ่อนแค่เพราะเขาอยากจำนน?”
“อืม!”
“ตราบเท่าที่ไม่ใบ้ ก็บอกความจริงมา บางทีพี่อาจฉลาดขึ้นด้วยหัวที่ถูกกระแทก”ซูหลิงเยวี่ยแค่นเสียง หมุนตัวและเดินออกไป”อย่าลีลา รีบลงไปกินข้าวเช้าได้แล้ว อย่าบอกแม่ละว่าฉันขึ้นมาและแกล้งพี่อีก!”
ปึง!

เธอปิดประตูด้านหลัง

ซูผิงฝืนยิ้ม ทำไมน้องสาวถึงรุนแรงขนาดนี้?

หวือ!

ประตูเปิดออกอีกครั้ง

ซูผิงตกใจ มันคือซูหลิงที่กลับมา เธอซ่อนใบหน้าสยดสยองไว้หลังประตู”นอกจากนี้ อย่าบอกแม่เรื่องฉัน ไม่งั้นละก็..”จากนั้นเธอก็ทำท่าปาดคอ

ปึง!

ประตูที่น่าสงสารต้องถูกกระแทกอีกครั้ง

“..”
ซูผิงนั่งตรงนั้นสักพักแล้วคลานกลับขึ้นหลังมั่นใจว่าไม่มีอะไรอีก

เขามองไปรอบๆห้องและเห็นโปสเตอร์และหุ่นของอสูรดวงดาวมากมาย แม้เขาจะเป็นคนธรรมดาในโลกนี้ เขาก็ไม่ได้ด้อยกว่านักรบอสูรดวงดาวเลยในแง่ของความรู้

แน่นอน นี่ไม่ได้เกิดจากความรักอันยิ่งใหญ่ต่ออสูรดวงดาว เขาเกลียดอสูรดวงดาว เขาแค่ศึกษาเพื่อหาทางเอาชนะอสูรดวงดาวในฐานะคนทั่วไป!

พูดให้ถูก เขากำลังหาทางเอาชนะอสูรดวงดาวของน้องสาวเขา!

แต่ทว่า หลายปีผ่านไป เขายังได้รับการทารุณและดูถูกโดยไม่มีความสามารถสู้กลับ ใครจะจินตนาการได้ว่าชีวิตเขายากลำบากเพียงใดถึงต้องค้นคว้ามากขนาดนี้

ซูผิงมีความรู้สึกผสมปนเปกันหลังทบทวนชีวิต18ปีของชายคนนี้ ไม่เพียงเขาจะเป็นคนไร้ค่า แต่เขายังทำให้คนทรงอำนาจคนเดียวที่สามารถเกาะได้โกรธ เขาสร้างปัญหามากมายและหลอกน้องสาวเขาหลายครั้ง เขาใส่หนอนผีเสื้อไว้ในกล่องอาหารกลางวันหรือหลอกเธอตอนกลางคืนด้วยการสวมชุดผี เขาเป็นสาเหตุการบาดเจ็บในวัยเด็กของเธอ

ดูจากผลลัพธ์ เขาเปลี่ยนเด็กสาวที่เขาสามารถเกาะได้เป็นสัตรู นอกจานกี้ น้องสาวเขาไม่ใช่คนจิตใจดีอะไร

ซูผิงต้องหาโอกาสคืนดีกับน้องสาวเขา ไม่งั้น เขาคงจะชอกช้ำใจหรือเป็นประสาทไป

ซูผิงเตรียมตัว จากนั้นก็สวมรองเท้าแตะและลงไปชั้นล่าง

“ทำไมนานนักเล่า?โจ๊กจะเย็นหมดแล้ว รีบกินเร็วลูก”แม่เขา หลี่ฉิงรู่กล่าว เธอดูเหมือนจะอยู่ในวัย40 ทั้งอ่อนโยนและละเอียดอ่อน

ซูหลิงเยวี่ยยังนั่งอยู่ที่โต๊ะ เธอวางอสูรไฟชื่อ’บอลหิมะ’ไว้บนเก้าอี้ข้างเธอ ซึ่งควรจะเป็นที่ของเขา

ซูผิงขดปาก แม้แต่อาหารเช้าแสนเรียบง่าย เขาก็ยังรู้สึกถึงธรรมชาติแสนไร้สาระ

“ผมมาแล้ว”

ซูผิงตรงไปห้องนั่งเล่นเพื่อเอาเก้าอี้มาอีกตัว เขาดูอาหารเช้ามากมายกับโจ๊ก มีพายเนื้อ และนมถั่วเหลือง เขาเริ่มหิว

ซูหลิงเยวี่ยเลิกคิ้วและเหลือบมองซูผิง เธอจงใจใช้บอลหิมะเพื่อครอบที่นั่งเขาเพื่อยั่วโมโห ให้เขาโกรธและกรีดร้อง นั่นทำให้เธอบอกแม่ให้ดุเขา ทำไมเขาถึงทน? เธออยากรู้

มีความตื่นตระหนกในตาซูหลิงเยวี่ย เขาแสดง?

 

“แม่ หนูกินเสร็จแล้ว หนูจะไปเรียนละ”เนื่องจากแผนเธอล้มเหลว ซูหลิงเยวี่ยไม่มีอารมณ์อยู่อีก

เมื่อเธอกำลังจะออกไป แต่ซูฉิงรู่หยุดเธอไว้”เสี่ยวเยวี่ย รอก่อน”

“อ้า?”ซูหลิงเยวี่ยหันไป

“เร็วๆนี้ ร้านของพี่ผิงไม่ค่อยดีนัก มันไม่ค่อยเป็นที่นิยม ลูกช่วยเอาบอลหิมะไปนั่งแสดงตัวที่ร้านได้ไหม?”

 

ซูหลิงเยวี่ยประหลาดใจ เธอเหลือบมองซูผิงที่กำลังกลืนโจ๊ก กลอกตาและให้เหตุผล”แม่ ธุรกิจก็แย่ลงทุกวันเพราะแม่ปล่อยให้เขาจัดการ ทำไมแม่ถึงคิดอย่างนั้น?เหตุผลเพราะเขาทำหน้าที่ได้ไม่เหมาะสม แม่ยังจำตอนที่มีคนเกือบจะร้องเรียนเราที่สมาคมอสูรดวงดาวได้ไหม?”
“มีคนทิ้ง’นกส่งสาร’ไว้ที่นั่นเพื่อบริการขนส่ง แต่ทว่า มันเริ่มพูดด่าคนทั้งหมดที่มันพบและมันยังก่นด่าไปทั่ว ไม่ถึงอาทิตย์ นกตัวนั้นก็ถูกทุบตีจนตายและคดีนี้ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขเลย!”

“แม่ยังคิดให้เขาเอาบอลหิมะหนูไปดูแลทั้งๆที่ยังดูแลนกส่งสารไม่ได้?มีหวังที่บอลหิมะจะเลื่อนเป็นอสูรดวงดาวขั้น8 หากแม่ไม่ว่าอะไร หนูก็จะไม่มีทางให้ ยังไงซะ แม่ก็คือคนที่ซื้อบอลหิมะให้หนู”
ซูฉิงรู่พูดไม่ออก

หากมันไม่ใช่ความจริงที่เธอสภาพร่างกายไม่ดี เธอคงไม่ขอให้ซูผิงไปดูแลร้านค้า

ซูผิงสามารถสัมผัสถึงสายตาอาฆาตของน้องสาวเขาได้แต่ตัดสินใจเงียบ เขาลดหัวและกินโจ๊กต่อ

“ฮึ่ม!”เธอแค่นเสียง หลังสัมผัสว่าซูผิงรู้วิธีปฏิบัติตนต่อสถานการณ์นี้ เธอก็หยืบบอลหิมะที่ยังกินกระดูกขึ้นและกลับห้องไปเพื่อเปลี่ยนชุดและออกไป

ไม่นาน ซูผิงก็กินเสร็จ ตามเคย หลังซูฉิงรู่บอกเขาให้ไปทำงาน เขาก็ขี่จักรยานไปร้าน

มันคือร้านขายอสูรดวงดาว

ซูผิงคือผู้ฝึก งานเขาเกี่ยวกับงานบริการอสูรดวงดาวมากกว่าการฝึกจริงๆ

เหนือสิ่งอื่นใด ผู้ฝึกสอนที่แท้จริงสามารถเปลี่ยนศักยภาพและขั้นของอสูรดวงดาวได้ ผู้ฝึกสอนจะเพลิดเพลินกับตำแหน่งที่คล้ายกันหรือสูงยิ่งกว่านักรบอสูรดวงดาว!

ระหว่างทาง ซูผิงเห็นอาคารสูงและคฤหาสน์ใหญ่ เหมือนบนโลก สิ่งเดียวที่แตกต่างคืออสูรดวงดาวหน้าตาประหลาดที่เดินพร้อมคนเดินเท้าส่วนใหญ่

“ฉันอยู่ในอีกโลกจริงๆ..”ซูผิงอุทาน ทุกอย่างเหมือนฝัน แต่ก็เหมือนจริง

ไม่ช้า เขาก็มาถึงร้านของตระกูลเขา

ร้านอยู่ปลายถนนสายการค้า ตำแหน่งค่อนข้างห่างไกล แต่มันเคยเป็นที่นิยม แม่ของซูผิงคือผู้ฝึกอสูรดวงดาวของสหพันธ์ แม้เธอจะเป็นแค่ผู้ฝึกขั้นต้น เธอก็สามารถเปิดร้านเล็กๆแบบนี้ได้ เธอมีลูกค้าประจำมากพอสมควร

แต่ทุกอย่างกลับเปลี่ยนไปเมื่อซูผิงมาดูแลร้าน

เอี้ยด!

ซูผิงเปิดประตู เขาสามารถเห็นฝุ่นในอากาศเมื่อแสงแดดส่องมาในร้าน

มันดูเหมือนว่าร้านจะไม่ได้ทำความสะอาดมานาน มีกลิ่นฉุนของปัสสาวะสัตว์และอุจจาระด้านใน

ซูผิงขมวดคิ้วและกลั้นลมหายใจ

ทันใดนั้น เสียงจักรกลก็ดังขึ้นในหัวเขา

 

“ตรวจพบวิญญาณที่เหมาะสมภายในระยะเป้าหมาย กำลังทำสัญญา..”
“ทำสัญญาเสร็จสิ้น เพิ่มลงระบบ..”
“สำเร็จ..พร้อมปล่อยตัว..”
“ระบบ?”

ซูผิงหยุดชะงัก จากนั้นแสงก็เปล่งประกายออกจากตาเขา

สิ่งที่ควรมากำลังมา...

รีวิวผู้อ่าน