ซาลีนเอาเหรียญทองและสวมผ้าคลุมที่เจสันเตรีมไว้ให้ ผ้าคลุมตัวนี้ไม่มีรอยเย็บใดๆ แม้ว่าซาลีนจะอยู่ดีกินดี แต่เขาก็เป็นแค่เด็กอายุสิบสอง ถ้าตัดชายผ้าคลุมออกมันก็ไม่พอดีกับซาลีนอยู่ดี
เหรียญทอง 6 เหรียญที่เขามีนั้นเป็นเงินจำนวนมาก เมื่อก่อนเขายังใช้เงินทั้งปีไม่มากเท่านี้เลย
ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆในซีลอน ทหารจอมขี้เกียจที่เฝ้าประตูไม้แม้จะเหลือบมองซาลีน แม้ว่าเขาจะไม่ได้เข้าเมืองมา 6 เดือนแล้ว แต่ดูเหมือนทหารจะจำเขาได้ ให้เก็บภาษีจากขอทานงั้นเหรอ? ไม่มีทางหรอก
ซาลีนเดินไปตามถนนและหยุดที่ร้านอาหาร เพราะนี้ยังเช้าอยู่ เขาเลยไม่รีบไปร้านขายข้าวสาร แม้ในตอนที่เขาไม่มีเงิน เขาก็อยากจะทานอาหารที่นี่ ด้วย 6 เหรียญทองที่มี ความฝันของเขาได้กลายเป็นจริงแล้ว
มันใช่ร้านอาหารเล็กๆ ที่ด้านขวานั่นมีลานสำหรับจอดรถม้า แม้ว่าเมืองซีลอนจะไม่รุ่งเรืองเหมือนแต่ก่อน แต่ก็ยังมีพ่อค้าและชนชั้นสูงหลงเหลืออยู่บ้าง ซิกคินย่าเป็นศูนย์กลางการค้า มันมีศูนย์การค้า 4 ที่ในดินแดนไมเออร์ การที่เมืองซีลอนเป็นเมืองท่านั้นทำให้ไม่ถูกลดบทบาทอย่างสมบูรณ์ แม้จะลดลง เมืองก็ยังพอมีชีวิตชีวาอยู่บ้าง
ร้านอาหารร้านนี้ได้รับการดูแลอย่างดีจากพวกคนรวยที่มักจะเลือกที่นี่เป็นสถานบันเทิง
ซาลีนนั้นไม่ได้ไม่รู้หนังสืออีกแล้ว เขามองไปที่กระดานเหนือประตูหลักที่เขียนด้วยภาษาไมเออร์ – วาฬแห่งซีลอน
ในยุคที่เมืองซีลอนรุ่งเรืองนั้นอาหารจานเด็ดคือเนื้อวาฬ แต่ตอนนี้ชาวประมงไม่คิดจะจับวาฬแล้ว ร้านอาหารได้จ้างพ่อครัวจากฉินมาประจำ ยังไงก็ตามป้ายชื่อร้านนั้นไม่ได้ถูกเปลี่ยนมาเป็นร้อยปีแล้ว ถ้ามีใครจ่ายมากพอ อาจจะมีชาวประมงยอมเสี่ยงชีวิตไปจับวาฬมาให้ก็ได้
ซาลีนคงมีเงินไม่พอที่จะกินเนื้อวาฬ แต่ถ้าซื้อในชั้นแรกเขาจะจ่ายแค่ 2 เหรียญเงินเท่านั้นกับอาหาร 2 จาน
เขาเดินเข้าไปในร้านวาฬแห่งซีลอน หาเก้าอี้ที่ว่างอยู่และนั่งลง ผู้ดูแลร้านเห็นเขาและรีบเข้ามาหาและตะโกนใส่เขาเสียงดัง
“เจ้าขอทาน! ออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้ ที่นี่ไม่มีอะไรให้แก”
ซาลีนโกรธ หน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดง เขาอาจจะเป็นขอทานมาก่อนแต่ตอนนี้เขาเป็นจอมเวทย์ฝึกหัดแล้ว แม้จะฝึกหัด แต่ก็มีศักดิ์ศรี เขาหยิบเหรียญทองออกมาจากกระเป๋าและกระแทกลงบนพื้นจากนั้นก็ชายตามองไปยังผู้ดูแลร้านและถาม
“เจ้าเรียกใครว่าขอทาน?”
ผู้ดูแลประหลาดใจและรีบยิ้มออกมา เขาโค้งคำนับและพูด
“โอ้ นายน้อย ข้าเข้าใจผิดคิดว่าเป็นคนอื่น มีเด็กคนอื่นกินแล้วไม่จ่ายเมื่อวานนี้ แน่นอนว่าไม่ใช่ท่าน กรุณาอภัยให้ข้าเถิด ข้าจะไปหยิบเมนูมาให้เดี๋ยวนี้”
เขาหันและเดินกลับไปด้วยความกลัวคำตอบของซาลีน ซาลีนไม่ได้พอใจกับคำขอโทษ แต่เมื่อเขาขอโทษออกมาแล้ว มันก็จะดูไม่ดีถ้าเขาเอาเรื่องต่อไป
ซาลีนไม่ได้สังเกตเห็นกลุ่มลูกค้าที่เดินลงมาจากชั้นบน นำโดยพ่อค้าร่างอวบตามมาด้วยคนรับใช้ที่เกือบจะฆ่าเขาจากการเตะ
พ่อค้านั่นตกใจที่เห็นซาลีน โดยเฉพาะเหรียญทองวาววับบนโต๊ะของเขา เขาสามารถบอกได้อย่างรวดเร็วว่านั่นเป็นเหรียญทองรูปโอคจากอาณาจักรซิกคินย่า
พ่อค้าทำท่าที่สงบนิ่งไม่สนใจและเดินออกไปจากร้าน พอออกมาแล้วเขาก็หันไปคุยกับคนรับใช้
“เจ้าเด็กนั่นดูเหมือนจะเป็นเด็กจากตระกูลเมตาทริน มันยังมีชีวิตอยู่ได้ยังไงกัน?”
“เจ้านาย ข้าก็สับสนเช่นกัน ถ้าไม่มีใครช่วยเขา เขาก็คงอดตายไปแล้ว” คนรับใช้ตอบด้วยสีหน้างงงวย
“น่าแปลก ขอทานจะไปหาเหรียญทองมาจากไหน?”
“เจ้านาย ข้าได้ยินมาว่าช่วงนี้มีกลุ่มโจรอยู่ในเมือง และพวกมันก็รับเด็กด้วย ท่านคิดว่า...”
“ถ้ามันเป็นโจรล่ะ? เจ้าจงไปที่ส่วนรักษาความปลอดภัยของเมืองและนำทหารมา บอกเขาว่าเราทำเงินหาย และจับเด็กนั่นมาฆ่าทิ้งเสีย เก็บเหรียญทองของมันมา ทำตามที่ข้าบอกซะ”
พ่อค้าบอกคนรับใช้อย่างระมัดระวัง จากนั้นกลุ่มคนรับใช้ก็กลับเข้าไปในร้านวาฬแห่งซีลอน
ซาลีนที่ไม่รู้ว่ากำลังจะเกิดเรื่องเลวร้ายกับเขานั้นสั่งอาหารที่ไม่แพง 2 จานที่ราคาต่ำกว่า 2 เหรียญเงิน เขาที่ยังเด็กอยู่นั้นไม่กล้าสั่งเหล้าดังนั้นจึงสั่งชา และดื่มมันอย่างมีความสุข และเขาก็ตระหนักว่าเขาไม่เข้ากับที่นี่ คนอื่นนั้นแต่งตัวดี บางคนใส่แม้กระทั่งผ้าไหมจากราชวงศ์ฉิน
ผ้าคลุมที่เขาใส่อยู่นั้นดูเหมือนหยิบมาจากที่ไหนสักที่ ไม่น่าแปลกที่ผู้ดูแลร้านจะอยากให้เขาออกไป เขาเลยตัดสินใจว่าจะซื้อชุดที่เหมาะสมเมื่อเขามีเงิน จะได้ไม่ถูกมองอย่างดูถูกต่อไป
อาหารจานแรกที่ซาลีนสั่งถูกนำมาวางบนโต๊ะ แต่ก่อนที่เขาจะหยิบมีดนั้น ก็มีทหาร 4 คนพุ่งมาจากประตูและกดเขาลงกับพื้น และมัดซาลีนโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง
“พวกเจ้าทำอะไรน่ะ?” ซาลีนที่ตอบโต้อะไรไม่ได้ทั้งกลัวและหน้าซีด
“อะไรกันเจ้าหนุ่ม? เจ้าทำผิดแล้วยังมีหน้ามากินอาหารที่นี่อีกเหรอ เอามันออกไป!” ทหารที่จับเขานั้นมีท่าทีดุร้ายราวกับฝูงหมาป่า พวกเขามาจากส่วนความปลอดภัยและรับผิดชอบความปลอดภัยในเมืองซีลอน เนื่องจากรายได้น้อยและไม่มีรายงานภารกิจในวันนี้ พวกเขาจึงรับเหรียญทองมาโดยไม่สนใจความจริง สองปีมาแล้วที่เขาไม่ได้ค่าจ้างเยอะขนาดนี้
“บ้าจริง!” ใบหน้าของซาลีนถูกกดลงบนโต๊ะ เขาสูญเสียความเยือกเย็นไป เขาไม่ได้ทำอะไรเลย และพยายามจะต่อต้าน ทหารคนหนึ่งยกขาขึ้นมาและเตะไปยังซี่โครงของซาลีน
“อั่ก!”
ซาลีนเปล่งเสียงที่ดูเหมือนไม่ได้ออกมาจากคน เตะนั้นมันแรงจนกระดูกเขาหัก ทำให้เขานึกถึงอดีตที่เป็นขอทาน ตอนนั้นเขาไม่รู้สึกอะไรกับการโดนเตะมั่วๆ แต่ตอนนี้เขารู้สึกอับอาย เขาหันหน้าไปและถ่มน้ำลายรดหน้าทหาร
ทหารตอบโต้ด้วยการเตะและต่อย พวกทหารได้ใช้โซ่เหล็กมัดปากของซาลีน แล้วทหารทั้งสี่ก็ลากซาลีนออกมา ผู้ดูแลร้านตามออกมาและตะโกน
“พวกท่าน คนคนนั้นยังไม่ได้จ่ายเงิน”
เหล่าทหารหัวร่อ “เจ้าเด็กนี่ขโมยเงินมา เจ้าอยากได้เงินโจรงั้นหรือ?”
“ข้ามิบังอาจ” ผู้แลตอบอย่างโอนอ่อนด้วยความรู้สึกโชคร้าย เขาไม่ควรให้เด็กนี่เข้ามาเลย ชุดก็ดูไม่ดี แล้วค่าอาหารของเด็กนี่จะต้องมาลบกับเงินเดือนของเขาอีก บัดซบ! เขาทำงานครึ่งเดือนไปอย่างสูญเปล่า! เขารีบกลับไปในร้านและนำอาหารของซาลีนกลับไปในครัว เขาหวังว่าจานถัดไปของซาลีนจะยังไม่ได้ทำ เขาจะได้ไมต้องเสียเงินเพิ่ม
ซาลีนถูกนำตัวมายังส่วนรักษาความปลอดภัย และถูกโยนเข้าไปในคุกโดยไม่ถามคำถามใดๆ
ซาลีนฟื้นฟูพลังกายได้ส่วนหนึ่ง ใช้แรงทั้งหมดเคาะแท่งโลหะ และตะโกนถาม
“จับข้ามาทำไม?!”
ทหารทั้งสี่หันมาและยิ้ม “ถ้าแกไม่ถามล่ะก็ ข้าเกือบจะลืมไปแล้วว่าต้องค้นเงินในตัวเจ้า!”
“เงินนั่นเป็นของข้า!” 6 เหรียญทองถูกเอาออกมาจากตัวซาลีน ไร้ประโยชน์ที่จะขัดขืน
“ตอนนี้มันเป็นของพวกข้าแล้ว” ทหารล็อคประตูเหล็กและทิ้งซาลีนที่ร้องไห้ โดยไม่ได้ยินแม้แต่ข้อมูลสำคัญที่ซาลีนตะโกนด้วยเสียงแหบแห้ง
“อาจารย์ข้าเป็นจอมเวทย์นะ!” ความจริงแล้ว ถ้าพวกเขาได้ยินก็คงจะไม่เชื่ออยู่ดี จอมเวทย์ผู้ใดกันที่จะรับขอทานมาสอน? แม้แต่ลอร์ดก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะเชิญจอมเวทย์มาที่บ้าน
ซาลีนเริ่มรู้สึกหวาดกลัวและสิ้นหวัง เขาไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น เจสันนั้นไม่ค่อยออกมาจากห้องเลย บางทีออกมาเพียงครั้งเดียวใน 2 สัปดาห์โดยไม่กินแม้กระทั่งอาหารที่ซาลีนเตรียมไว้ให้
ในห้องขังนั้นมืดสนิท ความกลัวกัดกินในใจของซาลีน เขาอ้าปากโดยไม่รู้ว่าจะตะโกนอะไรออกไปอีก มันมีความเจ็บปวดบนในหน้าของเขาโดยเฉพาะที่ขากรรไกร กระดูกบริเวณนั้นอาจจะหัก ริมฝีปากนั้นบวม แม้ว่าน้ำตาจะไหล แต่เขาก็ต่อต้านมัน
ข้าคือผู้ฝึกเวทย์ ข้าจะไม่ร้องไห้อีกแล้ว ไม่มีทาง!
ตกกลางคืน เมืองซีลอนก็เงียบลง ประตูเมืองถูกปิดล็อค ใต้แสงจันทร์ มีเงาที่เร็วดั่งสายฟ้าเคลื่อนที่มายังประตูเมืองด้วยหน้าฉงน เขายกแขนขึ้นและก็มีปีกสยายออกมาจากแผ่นหลัง เขาบินข้ามกำแพงและเข้าไปในเมือง
ยามเฝ้าประตูเห็นเงาและตะโกน “ใครอยู่ตรงนั้นน่ะ!?”
ชายคนนั้นไม่ได้ให้ความสนใจใดๆกับเสียงตะโกน เงาของเขาที่เกิดจากแสงจันทร์ได้หายไปในสุดทางของถนน หลังจากนั้นเขาก็ถึงส่วนรักษาความปลอดภัยของเมือง ใต้แสงจันทร์ด้วยผ้าคลุมเวทย์สีเทาของเขาทำให้ดูเหมือนมีควันปกคลุม ชายคนนี้คือเจสัน สเตแธม ผู้ที่ทำสัญลักษณ์เวทมนตร์ไว้บนตัวซาลีน เมื่อซาลีนไม่กลับมา เจสันรู้ว่าต้องเกิดอะไรขึ้น เขาจึงตามสัญลักษณ์เวทย์และเข้ามายังเมืองซีลอน
สัญลักษณ์เวทย์นั้นจะนำทางแก่จอมเวทย์ แม้ว่าซาลีนจะอยู่ในคุกใต้ดิน มันก็ไม่เป็นปัญหากับเจสัน
“ใครกัน...” ทหารที่เฝ้ายามแทบจะไม่ได้ตะโกนถาม ก่อนที่จะถูกเจสันคว้าคอและยกลอยขึ้นไปในอากาศ
ร่างกายของจอมเวทย์ระดับ 5 นั้นแข็งแกร่งและจะไม่ถูกโค่นโดยทหารธรรมดาๆ
“เด็กที่เจ้าจับมาวันนี้อยู่ที่ไหน? พาข้าไปหาเขา” เจสันพูดด้วยเสียงเย็นเยือก โดยไม่มีท่าทีอ่อนโยนแบบที่ทำกับซาลีน
“เด็กคนไหนล่ะ?”
เจสันดึงใบหน้าของทหารขึ้นและจ้องมองตรงเข้าไปในดวงตาของเขา
“พาข้าไปที่ห้องขังและเรียกทุกคนออกมาจากที่นี่”
ทหารรู้สึกกลัวมากที่รู้สึกราวกับว่าวิญญาณของเขาทิ้งตัวลง เขาได้เห็นปีศาจเป็นชายวัยกลางคนที่บีบคอเขายกขึ้น ขาของทหารคนนั้นอ่อนยวบ ที่ปากมีฟองน้ำลายออกมา ตอนที่ถูกทิ้งลงบนพื้น เจสันโกรธมาก – เขาอาจจะทำรุนแรงเกินไป ทหารธรรมดาคงจะทนไม่ได้
เจสันตัดสินใจตามทางจากสัญลักษณ์เวทย์เพื่อไปยังคุกใต้ดิน ด้วยเวทย์แสง เขาก็เห็นภายในคุก เขาจับแท่งเหล็กด้วยมือทั้งสองข้าง – เขาพูดอะไรไม่ออก
ด้วยสิ่งที่เจสันทำไป ทหารทั้งหมดที่ประจำอยู่ได้กั้นทางออกคุกใต้ดิน หนึ่งในนั้นตะโกน
“คุกเข่าลง เจ้าพวกนอกกฏหมาย! กล้าดียังไงที่มาที่นี่ วางอาวุธของเจ้าลงซะ!”
ก่อนที่จะพูดต่อ ทหารตาเร็วคนหนึ่งได้ชี้ไปที่แสงสว่างในคุก และตะเบ็งเสียง
“นั่นมัน ... นั่นมัน...
“เวทมนตร์? อย่ามาล้อเล่นน่า?”
“จริงๆ ดูสิ!”
เจสันไม่สนใจและดึงล็อคด้วยมือข้างเดียว มันดูเหมือนเป็นการดึงเขาๆ และล็อคก็ปลดออก ซาลีนผลักประตูและพุ่งออกมา เกือบชนกับอ้อมกอดของเจสัน ริมฝีปากเขาขยับเล็กน้อย แต่แม้กระทั่งเขาเองก็บอกไม่ได้ว่าตัวเองส่งเสียงอะไรออกมา
“ใครกันที่จับลูกศิษย์ของข้า?”
เจสันถามด้วยเสียงว่างเปล่า
เหล่าทหารมองกันไปมา – ไม่มีใครที่กล้าตอบ ส่วนหนึ่งคิดว่าใครกัน ที่นำพาความตายมาให้เขา?
“ถ้าไม่มีใครรู้...” เจสันไม่พูดมาก เขากางมือออกและบอลไฟก็ปรากฏบนฝ่ามือของเขา
บอลไฟนั้นเป็นเพียงเวทย์ระดับ 1 แต่การเรียกและต่อต้านมันหลังจากที่เรียกออกมาแล้วนั้นจอมเวทย์ระดับ 4 ถึงจะทำได้ แต่ยังไงทหารพวกนี้ก็ทำอะไรจอมเวทย์ไม่ได้อยู่แล้ว
“ท่ะ...ท่าน.... ได้โปรด อย่าโกรธไปเลย ข้าจะช่วยท่านหาตัว” ทหารคนหนึ่งพูดและหันวิ่งไปยังทางออก
เขาแบกซาลีนไปด้วยท่าทีเคร่งขรึม เขาเดินออกจากคุกใต้ดินในไปยังห้องโถงหลักและนั่งลงที่นั่น